คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2073/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสองผลัดกันกระทำชำเราผู้เสียหาย จำเลยที่ 1 กระทำชำเราด้วยความยินยอมของผู้เสียหายจึงไม่มีความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ส่วนจำเลยที่ 2 กระทำชำเราโดยที่ผู้เสียหายมิได้ยินยอมจึงมีความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราแต่เมื่อการกระทำของจำเลยที่ 1ไม่เป็นความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราเสียแล้ว การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงไม่เข้าลักษณะเป็นการโทรมหญิงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา276 วรรคสอง จำเลยที่ 2 คงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276วรรคแรกเท่านั้น จำเลยที่ 1 ได้สมคบร่วมคิดกันมาก่อนกับจำเลยที่ 2 ว่าจะให้จำเลยที่ 2 กระทำชำเราผู้เสียหายด้วยโดยเมื่อจำเลยที่ 1กระทำชำเราผู้เสียหายเสร็จแล้ว จำเลยที่ 1 ก็ออกจากห้องไป เปิดประตูไว้ให้จำเลยที่ 2 เข้าไปข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายถือได้ว่าเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 2 ในการกระทำความผิดจำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนจำเลยที่ 2 ในการกระทำความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายโดยใช้กำลังประทุษร้ายกอดปล้ำ ผลัดกันข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่คนละหลายครั้งหลายหนในลักษณะเป็นการโทรมหญิง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 276 วรรคสอง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 วรรคแรก จำคุก 4 ปี ทางนำสืบของจำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ 3 ใน 8 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 2 ปี 6 เดือน ให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 1
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสอง จำคุกคนละ 15 ปี
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 ร่วมประเวณีกับผู้เสียหายด้วยความยินยอมของผู้เสียหาย จำเลยที่ 1 จึงไม่มีความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา สำหรับจำเลยที่ 2 วินิจฉัยว่าผู้เสียหายได้ขัดขืนดิ้นรนมิได้ยินยอมให้จำเลยที่ 2 ร่วมประเวณีการกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย แต่เมื่อการกระทำของจำเลยที่ 1 ไม่เป็นความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราเสียแล้ว การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงไม่เข้าลักษณะเป็นการโทรมหญิงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสอง จำเลยที่ 2 คงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคแรก เท่านั้น และสำหรับจำเลยที่ 1 นั้น แม้การที่เป็นการร่วมประเวณีกับผู้เสียหายโดยผู้เสียหายยินยอมและไม่เป็นความผิด แต่จำเลยทั้งสองได้สมคบร่วมคิดกันมาก่อนว่าจะให้จำเลยที่ 2 ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายและการที่จำเลยที่ 1 ร่วมประเวณีกับผู้เสียหายก่อน เมื่อเสร็จแล้วก็ออกจากห้องไปเปิดประตูไว้ให้จำเลยที่ 2 เข้าไปข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายย่อมเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 2 ในการกระทำความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนจำเลยที่ 2 ในการกระทำความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 วรรคแรก ประกอบมาตรา 86 ให้จำคุก 2 ปี 8 เดือน จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคแรก ให้จำคุก4 ปี

Share