แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยฟ้องแย้งโจทก์ แต่เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาคดีแล้ว จำเลยได้มิได้ติดใจอุทธรณ์ในเรื่องเรียกร้องเงินจากโจทก์ตามจำนวนทุนทรัพย์ที่จำเลยฟ้องแย้งไว้ และทั้งมิได้ฎีกาเรียกร้องทุนทรัพย์ตามฟ้องแย้งของจำเลย เป็นแต่จำเลยฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่พิพากษาให้จำเลยใช้เงินตามฟ้องของโจทก์ เท่านั้นดังนี้ จำเลยไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาลและค่าคำบังคับ สำหรับฟ้องแย้งของจำเลย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาขายไม้ให้โจทก์ โดยจะลากเข็นมาส่งริมตลิ่งลำน้ำสะแกกรัง จำเลยได้รับเงินล่วงหน้าไปแล้ว ๑๐๐๐ บาท แต่ส่งไม้มาให้เพียง ๕ ท่อน ราคา ๓๑๕ บาท แล้วไม่ส่งไม้มาอีก โจทก์จึงขอให้จำเลยส่งเงินคืนพร้อมทั้งดอกเบี้ย
จำเลยฟ้องแย้ง อ้างว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาเรียกค่าเสียหาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า โจทก์ผิดสัญญา ต้องใช้ค่าเสียหายที่ไม้เสื่อมราคาให้จำเลย
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยผิดสัญญา พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้เงินโจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกา ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ แต่ที่ศาลชั้นต้นเรียกค่าขึ้นศาลและค่าคำบังคับสำหรับฟ้องแย้งจากจำเลยเป็นอีกจำนวนหนึ่งนั้น เป็นการเรียกเกินไป เพราะจำเลยมิได้ติดใจอุทธรณ์ในเรื่องเรียกร้องเงินจากโจทก์ตามจำนวนทุนทรัพย์ที่จำเลยฟ้องแย้ง และทั้งมิได้ฎีกาเรียกร้องทุนทรัพย์ตามฟ้องแย้งของจำเลย จำให้คืนค่าธรรมเนียมนั้นให้จำเลย