คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2065/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ขณะจำเลยขายเฮโรอีนจำนวนหนึ่งให้แก่ผู้มีชื่อเสร็จก็ถูกจับกุมและค้นไม่พบเฮโรอีนอีก เมื่อเฮโรอีนที่จำเลยขายไปนั้น เป็นเฮโรอีนจำนวนเดียวกันกับที่โจทก์อ้างว่าจำเลยมีไว้ในครอบครอง หาใช่จำเลยมีเฮโรอีนอีกจำนวนหนึ่งไม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวแต่ผิดต่อกฎหมายหลายบท

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมียาเสพติดให้โทษชนิดเฮโรอีนฯ น้ำหนัก 0.08 กรัมราคา 2.40 บาท โดยไม่มีใบอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และจำเลยจำหน่ายยาเสพติดให้โทษดังกล่าวแก่ผู้มีชื่อ โดยมิได้รับอนุญาต จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลอาญาให้ลงโทษจำคุกฐานมียาเสพติดให้โทษไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465มาตรา 4 ทวิ, 20 ทวิ, 20 ตรี พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2502 มาตรา 8 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2504มาตรา 4, 6, 7, 12 ริบของกลาง และเพิ่มโทษจำเลย

จำเลยให้การรับสารภาพว่ามีเฮโรอีนไว้ในครอบครองและรับข้อเคยต้องโทษแต่ปฏิเสธข้อหาจำหน่าย

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวและมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465 มาตรา 20 ทวิฉบับที่ 4 พ.ศ. 2504 มาตรา 6 ให้ลงโทษจำคุก เพิ่มโทษ ลดโทษเพราะคำรับและริบของกลาง

โจทก์อุทธรณ์ว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานมีเฮโรอีนกรรมหนึ่งและฐานจำหน่ายเฮโรอีนอีกกรรมหนึ่ง ถึงแม้จะเป็นเฮโรอีนจำนวนเดียวกัน และต้องลงโทษทุกกรรม

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าหลายกรรม ไม่ได้อ้างบทมาตราที่ขอให้ลงโทษทุกกรรม เฮโรอีนที่จำหน่ายเป็นเฮโรอีนจำนวนเดียวกันกับที่อ้างว่าจำเลยมีไว้ในครอบครอง หาใช่จำเลยมีเฮโรอีนอีกจำนวนหนึ่งไม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท ตามนัยฎีกาที่ 933/2519 และ 2085/2517 พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาว่าสิบตำรวจโททรงยศเป็นผู้ไปล่อซื้อเฮโรอีนดังกล่าวจากจำเลยโดยขอซื้อ 1 บาท จำเลยล้วงเฮโรอีนซึ่งอยู่ในหลอกกาแฟจากกระเป๋ายื่นให้ สิบตำรวจโทจงกลกับพวกซึ่งรออยู่ก็เข้าไปจับกุมจำเลย แต่ค้นไม่พอเฮโรอีนอีก แล้ววินิจฉัยว่า เฮโรอีนในหลอดกาแฟที่จำเลยขายให้สิบตำรวจโททรงยศนั้น เป็นเฮโรอีนจำนวนเดียวกันกับที่โจทก์อ้างว่าจำเลยมีไว้ในครอบครอง หาใช่จำเลยมีเฮโรอีนอีกจำนวนหนึ่งไม่การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียว แต่ผิดต่อกฎหมายหลายบท

พิพากษายืน

Share