คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2053/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ศาลชั้นต้นยกข้อเท็จจริงต่างๆ ขึ้นวินิจฉัยแล้วสรุปว่าพยานหลักฐานยังไม่มั่นคงพอจะฟังว่าจำเลยมีเจตนากระทำความผิดและพิพากษายกฟ้อง. แล้วโจทก์ร่วมอุทธรณ์ว่า จำเลยกระทำโดยเจตนาพร้อมกับยกข้อเท็จจริงซึ่งต่างไปจากที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยขึ้นอ้างนั้น เท่ากับเป็นการอุทธรณ์โต้แย้งข้อเท็จจริงซึ่งศาลชั้นต้นหยิบยกขึ้นวินิจฉัยว่าไม่ถูกต้องอยู่ในตัว. จึงเป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 และที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ร่วมดังกล่าวแล้วพิพากษาลงโทษจำเลยก็ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็นหรือหยิบยกเอาข้อเท็จจริงที่ยุติแล้วขึ้นวินิจฉัยใหม่แต่ประการใด.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นพนักงานประจำธนาคารกรุงไทย จำกัด ได้อนุมัติให้จ่ายเงินตามเช็คที่ธนาคารอื่นส่งมาเรียกเก็บเงินโดยมีเจตนาจ่ายเงินเกินกว่าที่ควรจ่ายเพื่อประโยชน์แก่ตนเองหรือผู้อื่น หรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 10, 11
ธนาคารกรุงไทย จำกัด ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลอนุญาต
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 11 ลงโทษจำคุก
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์คลาดเคลื่อนในข้อกฎหมาย เพราะมิได้วินิจฉัยคำฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์ร่วมเสียก่อนว่าเป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และการวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็นกับเอาข้อเท็จจริงที่ยุติแล้วมาวินิจฉัยใหม่นั้น เห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นยกข้อเท็จจริงต่าง ๆขึ้นวินิจฉัยแล้วสรุปว่าพยานหลักฐานยังไม่มั่นคงพอจะฟังว่าจำเลยมีเจตนาจ่ายเงินเกินกว่าที่ควรจ่ายเพื่อประโยชน์แก่ตนเองหรือผู้อื่นหรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด โจทก์ร่วมอุทธรณ์ว่า จำเลยกระทำโดยเจตนาพร้อมกับยกข้อเท็จจริงซึ่งต่างไปจากที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยขึ้นอ้าง จึงเท่ากับเป็นการโต้แย้งข้อเท็จจริงซึ่งศาลชั้นต้นหยิบยกขึ้นวินิจฉัยว่าไม่ถูกต้องอยู่ในตัว อุทธรณ์ของโจทก์ร่วมจึงเป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193ทั้งไม่เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็นหรือหยิบยกเอาข้อเท็จจริงที่ยุติแล้วขึ้นวินิจฉัยใหม่แต่ประการใด
พิพากษายืน

Share