แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ต้นกัญชาเกิดขึ้นเองในที่นาจำเลย จำเลยดูแลรดน้ำต้นกัญชาดังกล่าวโดยรู้ว่าเป็นต้นกัญชา ถือได้ว่าเป็นการปลูกต้นกัญชา ซึ่งเป็นความผิดฐานผลิตกัญชาอันเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 แล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อระหว่างวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๒๗ ถึงวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๒๗ ทั้งเวลากลางวันกลางคืนต่อเนื่องกัน วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยบังอาจผลิตยาเสพติดให้โทษกัญชาโดยการเพาะปลูกกัญชา ๓ ต้น หนัก ๓๓๕ กรัม อันเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท ๕ โดยมิได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีตามกฎหมาย เหตุเกิดที่ตำบลอู่ทอง อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔, ๗, ๒๖, ๗๕, ๑๐๒, ๑๐๓ และริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๗๖ วรรคแรก ลงโทษจำคุก ๔ เดือน ของกลางริบคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยกฟ้อง
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๗๕ ลงโทษจำคุก ๒ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า กัญชา ๓ ต้นของกลางขึ้นอยู่ในที่นาจำเลย จำเลยได้ดูแลรดน้ำต้นกัญชา ของกลางโดยรู้ว่าเป็นต้นกัญชา แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า แม้ต้นกัญชาของกลางจะเกิดขึ้นเอง การกระทำของจำเลยดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการปลูกต้นกัญชาของกลาง ซึ่งเป็นความผิดฐานผลิตกัญชาอันเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ ๕ ดังโจทก์ฟ้อง
พิพากษายืน