คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 205/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้วไม่จำจะต้องเป็นการรับรองในทางจดทะเบียนรับรองบุตร การรับรองโดยกิริยาความประพฤติเป็นที่เปิดเผย ก็ย่อมเพียงพอให้บุตรนอกกฎหมายนั้นมีสิทธิรับมรดกเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายได้
(อ้างฎีกาที่ 446/2493)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนหรือทำลายนิติกรรมการโอนที่ดิน ๒ แปลง โดยกล่าวว่าเป็นของนายใสบิดาโจทก์ซึ่งถึงแก่กรรมไปแล้ว จำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นพี่นายใส ได้มาขอประกาศรับมรดกที่ ๒ แปลงนี้ แล้วโอนขายแก่จำเลยที่ ๒ โดยไม่สุจริตโจทก์ถือว่าโจทก์เป็นเจ้าของผู้รับมรดกนายใสอันแท้จริง จึงขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนการจดทะเบียนทั้งสิ้นนั้นเสียให้กลับคืนสู่ฐานะเดิม
จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ไม่ใช่บุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของนายใสแม้ศาลจะมีคำสั่งรับรองว่า โจทก์เป็นบุตรของนายใสก็ดี แต่โจทก์ยื่นคำร้องภายหลัง ความเป็นบุตรต้องเป็นผลตั้งแต่คำพิพากษาถึงที่สุด และว่าการโอนเป็นไปโดยสุจริต
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ ๒ แปลงระหว่างจำเลยนั้นเสีย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลสั่งรับเฉพาะข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาเห็นว่า บุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้ว ไม่จำจะต้องเป็นการรับรองในทางจดทะเบียนรับรองบุตร การรับรองโดยกิริยา ความประพฤติเป็นที่เปิดเผย ก็ย่อมเพียงพอให้บุตรนอกกฎหมายนั้นมีสิทธิรับมรดกเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายได้ (เช่นฎีกาที่ ๔๔๖/๒๔๙๓)
จึงพิพากษายืน

Share