แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บทบัญญัติมาตรา 17 สัตตแห่งพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ.2495 ไม่ใช่เรื่องนิรโทษรกรรมแต่เป็นหลักเกณฑ์ที่ผู้กระทำความผิดได้รับการยกเว้นไม่ให้ถูกฟ้องสำหรับความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์เท่านั้น จำเลยกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา จึงไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะได้รับยกเว้นมิให้ฟ้อง
ปัญหาว่าจำเลยได้รับนิรโทษกรรม และนับโทษต่อไม่ได้นั้นเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นมาวินิจฉัยได้ แม้ศาลอุทธรณ์จะมิได้วินิจฉัย ศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยได้
การจะนับโทษจำคุกจำเลยต่อจากคดีอื่นหรือไม่ เป็นดุลพินิจของศาล แม้คดอื่นและคดีนี้ศาลวางโทษจำคุกตลอดชีวิตเช่นเดียวกัน ศาลใช้ดุลพินิจให้นับโทษต่อได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๓ ริบของกลางและนับโทษจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๑๔๔/๒๕๒๙ ของศาลชั้นต้น
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่ขอให้นับโทษต่อ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘, ๘๓ จำคุกตลอดชีวิต ของกลางริบ นับโทษจำเลยต่อจากโทษจากจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๕๓๗/๒๕๓๐ ของศาลชั้นต้น
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า จำเลยได้รับนิรโทษกรรมและนับโทษต่อไม่ได้นั้น เห็นว่าปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้ศาลอุทธรณ์จะมิได้วินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายข้อนี้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นมาวินิจฉัยได้และเห็นสมควรวินิจฉัยไปเสียทีเดียว โดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย จำเลยฎีกาว่า หากฟังได้ว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง จำเลยก็ได้รับนิรโทษกรรมตามพระราชบัญญติป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ. ๒๔๙๕ มาตรา ๑๗ สัตต เพราะจำเลยได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขตามบทมาตราดังกล่าวครบถ้วนแล้ว เห็นว่าหลักเกณฑ์ตามบทมาตราดังกล่าวไม่ใช่นิรโทษกรรมแต่เป็นเรื่องที่ผู้กระทำความผิดได้รับยกเว้นไม่ให้ถูกฟ้องสำหรับความผิดที่ต้องหานั้น และความผิดที่จะได้รับยกเว้นไม่ให้ฟ้องตามบทมาตราดังกล่าวจะต้องเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์เท่านั้น จึงจะได้รับยกเว้นมิให้ฟ้องแต่ความผิดคดีนี้เป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา จึงไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะได้รับยกเว้นมิให้ฟ้อง ส่วนที่จำเลยฎีกาปัญหาข้อกฎหมายอีกข้อหนึ่งว่าศาลจะนับโทษจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๔๓๗/๒๕๓๐ ของศาลชั้นต้นไม่ได้เพราะในคดีดังกล่าวและคดีนี้ศาลวางโทษจำคุกตลอดชีวิตเช่นเดียวกัน เห็นว่าการจะนับโทษจำคุกจำเลยต่อจากคดีอื่นหรือไม่ เป็นดุลพินิจของศาล ดังนั้นที่ศาลล่างทั้งสองให้นับโทษจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษในคดีดังกล่าวแล้วข้างต้นจึงชอบแล้ว ฎีกาจำเลยในปัญหาข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.