คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2047/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การประกอบกิจการค้าของจำเลย. คือการส่งสินค้าไปจำหน่ายยังต่างประเทศโดยจำเลยรับสินค้ายางของโจทก์ไปจำหน่ายในนามของจำเลย จำเลยได้ค่าตอบแทนจากโจทก์เป็นบำเหน็จร้อยละ 10เมื่อจำเลยรับเงินจากลูกค้าในต่างประเทศส่งมาตามเลตเตอร์ออฟเครดิต มีการหักค่าบำเหน็จร้อยละ 10 ที่จำเลยมีสิทธิได้จากการขายก่อนกับหักค่าที่จำเลยทดรองจ่ายเป็นค่าระวางเรือ ค่าประกันภัยและอื่น ๆ ออกจากเงินที่ลูกค้าส่งมาแล้วด้วย เหลือเท่าใดเป็นเงินที่จำเลยต้องชำระให้โจทก์ ดังนี้ จำเลยจึงเป็นตัวแทนค้าต่างของโจทก์กรณีมิใช่จำเลยซื้อสินค้าจากโจทก์ คดีโจทก์หาขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1)ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกันเป็นตัวแทนค้าต่างโจทก์ขายยางรัดที่โจทก์เป็นผู้ผลิตให้แก่ลูกค้าในต่างประเทศ จำเลยร่วมกันสั่งซื้อกล่องกระดาษจากผู้อื่นโดยขอให้โจทก์ชำระราคาแทน โจทก์ชำระราคาแทนให้หลายครั้ง จำเลยเพิกเฉยไม่ชำระเงินค่ากล่องกระดาษให้โจทก์ นอกจากนั้นจำเลยยังคิดเอาค่าตอบแทนจากการเป็นตัวแทนค้าต่างของโจทก์เกินไปจากที่มีสิทธิ ทั้งยังคิดค่าระวางบรรทุกสินค้าเอากับโจทก์เกินกว่าที่จำเลยจ่ายจริงขอศาลบังคับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินทั้งสามรายการดังกล่าวรวมเป็นเงิน 138,368.14 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยไม่ได้ร่วมกันสั่งซื้อกล่องกระดาษและไม่ได้ให้โจทก์ชำระราคาแทนไปก่อนดังฟ้อง จำเลยซื้อยางรัดจากโจทก์เพื่อส่งไปขายลูกค้าของจำเลยในต่างประเทศ การซื้อกล่องกระดาษบรรจุหีบห่อยางรัดเป็นหน้าที่ของโจทก์การซื้อขายยางรัดเป็นการซื้อขายเสร็จเด็ดขาด จำเลยมิได้เป็นตัวแทนค้าต่างของโจทก์แต่โจทก์ต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการขนสินค้า การบรรจุหีบห่อ รวมถึงค่าระวางบรรทุกตามฟ้อง โจทก์มิได้ฟ้องภายใน 2 ปี นับแต่รู้หรือควรรู้ว่ามีสิทธิเรียกร้อง จึงขาดอายุความ ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยต้องรับผิดในเรื่องสั่งซื้อกล่อง ค่าบำเหน็จตอบแทนและค่าระวางเรือที่จำเลยคิดเกินไป พิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงิน 131,150.14 บาทพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยมิได้เป็นตัวแทนค้าต่างของโจทก์ จำเลยซื้อสินค้าจากโจทก์ คดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) แล้ว และไม่มีการคิดเงินเกินที่จำเลยจะต้องคืนให้โจทก์นั้น เห็นว่าจำเลยที่ 1 เบิกความว่า จำเลยไม่ได้รับสินค้าแต่เฉพาะจากโจทก์เท่านั้น จากบุคคลอื่นจำเลยก็รับสินค้าส่งต่างประเทศด้วย เกี่ยวกับโจทก์ จำเลยที่ 1 เบิกความรับว่าเอกสารหมาย จ.3, จ.6, จ.7, จ.10, จ.20, จ.27, จ.34, จ.41, จ.49, จ.57 และ จ.61 นั้น จำเลยทำมาให้โจทก์ โดยจำเลยที่ 1 อธิบายถึงรายการต่าง ๆ ในเอกสารเหล่านี้ระบุไว้ว่า มีรายการที่จำเลยรับเงินจากลูกค้าในต่างประเทศส่งมาตามเลตเตอร์ออฟเครดิต มีรายการหักค่าตอบแทนร้อยละ 10 ที่จำเลยมีสิทธิได้จากการขายสินค้าของโจทก์ตามข้อตกลง กับมีรายการที่จำเลยทดรองจ่ายเป็นค่าระวางเรือ ค่าประกันภัยและอื่น ๆ นำไปหักออกจากเงินที่ลูกค้าส่งมาแล้วเหลือเป็นเงินที่จำเลยต้องชำระให้โจทก์ ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าในการประกอบกิจการค้าของจำเลยคือการส่งสินค้าไปจำหน่ายยังต่างประเทศนั้น จำเลยรับสินค้ายางของโจทก์ไปจำหน่ายในนามของจำเลย จำเลยได้ค่าตอบแทนจากโจทก์เป็นบำเหน็จร้อยละ 10 จำเลยจึงเป็นตัวแทนค้าต่างของโจทก์ กรณีมิใช่จำเลยซื้อสินค้าจากโจทก์ คดีโจทก์หาขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) ไม่

พิพากษายืน

Share