คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2046/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยยื่นคำร้องขอแก้ไขคำให้การในวันชี้สองสถาน และข้อที่ขอแก้ไขก็เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏชัดแจ้งในคำให้การแต่แรกอยู่แล้ว จึงเป็นคำร้องที่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 180 (2) ชอบที่จะยกคำร้องของจำเลย
จำเลยอ้างเหตุส่งมอบดินขาวให้โจทก์ตามสัญญาไม่ได้เพราะมีโจรแบ่งแยกดินแดนข่มขู่เรียกค่าคุ้มครองจากโรงงานที่ผลิตดินขาวของจำเลยจนคนงานไม่กล้าเข้าไปทำงาน ดังนี้ เมื่อตามสัญญามิได้เจาะจงให้ส่งมอบดินขาวจากแหล่งผลิตของโรงงานจำเลย จำเลยจึงย่อมจัดหาดินขาวจากแหล่งอื่นได้ ดินขาวมิใช่เป็นทรัพย์เฉพาะสิ่ง จำเลยจะอ้างว่าการชำระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัยและปฏิเสธความรับผิดไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ทำสัญญาซื้อขายดินขาวจากจำเลยจำนวน ๖๐๐ เมตริกตันจำเลยผิดสัญญาโดยส่งมอบดินขาวงวดที่ ๕ ไม่ครบตามสัญญาและมิได้ส่งมอบดินขาวงวดที่ ๖ ต้องถูกปรับเป็นเงิน ๒๓๗,๘๙๘.๘๗ บาท โจทก์ได้บอกเลิกสัญญากับจำเลยและแจ้งให้จำเลยชำระค่าปรับแล้ว จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยชำระค่าปรับพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า เหตุที่ส่งมอบดินขาวให้ไม่ได้ เนื่องจากสถานะการณ์ที่จังหวัดนราธิวาสซึ่งเป็นที่ตั้งโรงงานผลิตดินขายมีโจรแบ่งแยกดินแดนซึ่งได้ข่มขู่เรียกค่าคุ้มครองจนคนงานไม่กล้าเข้าไปทำงานในโรงงานและไม่อาจส่งมอบดินขาวให้ได้เพราะเหตุสุดวิสัยการชำระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัยอันไม่อาจโทษจำเลยได้ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าปรับจากจำเลย ขอให้ยกฟ้อง
วันนัดชี้สองสถานจำเลยยื่นคำร้องขอแก้ไขคำให้การศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาต เพราะมิได้ยื่นก่อนวันชี้สองสถาน
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยชำระค่าปรับพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่ามีข้อวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขอเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยและให้งดสืบพยานเป็นการชอบหรือไม่นั้น เห็นว่าคำร้องขอเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยลงวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๒๘ จำเลยได้ยื่นต่อศาลชั้นต้นในวันเดียวกับที่ศาลชั้นต้นกำหนดการชี้สองสถานและศาลชั้นต้นได้ทำการชี้สองสถานในวันนั้นด้วย ถือว่าคำร้องขอของจำเลยได้ยื่นต่อศาลในวันชี้สองสถาน จึงขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๑๘๐ (๒) ที่ระบุให้ยื่นก่อนวันชี้สองสถานและเหตุที่จำเลยขอเพิ่มเติมคำให้การก็เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏชัดแจ้งในคำให้การแต่แรกของจำเลยอยู่แล้วที่จำเลยฎีกาว่าการชำระหนี้ที่จำเลยส่งมอบดินขาวให้แก่โจทก์เป็นการพ้นวิสัย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์นั้น พิเคราะห์สัญญาซื้อขายดินขาวระหว่างโจทก์จำเลยตามเอกสารหมายเลข ๒ ท้ายฟ้องซึ่งจำเลยรับว่าได้ทำสัญญากับโจทก์จริง ไม่ปรากฏข้อความใดพอที่จะให้ถือเป็นเหตุเพื่อให้จำเลยผู้เป็นคู่สัญญายกขึ้นอ้างเพื่อปัดความรับผิดตามที่จำเลยให้การต่อสู้ไว้ได้โดยเฉพาะวัตถุแห่งหนี้ที่เป็นดินขาวย่อมสามารถจัดหาวัตถุดังกล่าวจากแหล่งอื่นได้ไม่ยากนัก และตามสัญญาหาได้เจาะจงให้นำจากแหล่งผลิตของโรงงานจำเลยในจังหวัดนราธิวาส โดยเฉพาะไม่ทั้งลักษณะของทรัพย์ที่เป็นวัตถุแห่งหนี้มิใช่เป็นทรัพย์เฉพาะสิ่งที่จะต้องส่งมอบแก่โจทก์ตามสัญญาจึงไม่เป็นการพ้นวิสัยที่จำเลยจะบอกปัดความรับผิดนั้นได้
พิพากษายืน.

Share