แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ย่อยาว
โจทย์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๑ เวลากลางคืน จำเลยสมคบกันเปนผู้ร้ายลักม้า ๒ ตัวราคา ๘๐ บาท ของหมื่นเดช ๆ ไป รุ่งขึ้นวันที่ ๗ กรกฎาคม พวกเจ้าทรัพยกับเจ้าพนักงานติดตามจับตัวจำเลยได้พร้อมด้วยม้าของกลาง ขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย แลเพิ่มโทษนายไข่ฮักฐานไม่เขดหลาบด้วย เพราะนายไข่ฮักจำเลยเคยต้องโทษฐานทำร้ายร่างกายมาครั้งหนึ่งแล้ว ฯ
จำเลยทั้ง ๒ ให้การปฏิเสธข้อหา นายกลั่นจำเลยต่อสู้อ้างฐานที่อยู่ ฯ
ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชพิจารณาลงความเห็นว่านายไข่ฮักจำเลยกับพวกคนหนึ่งได้ลักม้ารายนี้ของหมื่นเดชไปจริง นายไข่ฮักมีความผิดฐานลักทรัพยต้องด้วยกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๙๔ ข้อ ๖ ประการด้วยมาตรา ๒๙๓ ข้อ ๑๑ จึงพิพากษาให้จำคุกนายไข่ฮักจำเลยมีกำหนดโทษ ๒ ปี กับให้เพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบตามมาตรา ๗๒ อีก ๘ เดือน รวมเปน ๒ ปี ๘ เดือน ส่วนนายกลั่นจำเลยยังไม่ควรมีความผิดให้ปล่อนตัวไป ฯ
โจทย์อุทธรณ ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษเห็นว่า โจทยมีพยานถึง ๓ ปากถ้อนคำประกอบกันเปนหลักฐานฟังได้ว่านายกลั่นจำเลยได้สมคบกับนายไข่ฮักเปนผู้ร้ายลักม้ารายนี้ไปจริง นายกลั่นจำเลยต้องรับโทษตามบทกฎหมายดุจเดียวกันกับนายไข่ฮัก จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาเดิมให้จำคุกนายกลั่นจำเลยมีกำหนดโทษ ๒ ปี
นายกลั่นจำเลยทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกา คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษในข้อเท็จจริง ฯ
กรรมการศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนแล้ว เห็นว่าทางพิจารณาโจทย์นำสืบได้ความสมฟ้อง คือ เวลาที่นายไข่ฮักลักม้ารายนี้ของหมื่นเดช ฯ นั้นได้มีคำนายอัด นายขุ้ม นายพร้อมผู้ใหญ่บ้านพยานได้พบเห็นจำเลยทั้ง ๒ พาเอาม้ารายนี้ไปเปนลำดับกัน นายไข่ฮักเปนผู้จูงม้าตัวแม่ซึ่งมีลูกติด นายกลั่นจำเลยเปนคนไล่หลัง พยานโจทย์ ๓ ปากนี้ถ้อนคำมิได้มีพิรุธแลมีเหตุสงสัยอย่างใด นายพร้อมผู้ใหญ่บ้านพยานก็เปนญาติกับนายกลั่นจำเลย คดีจึงฟังได้ว่านายกลั่นจำเลยสมคบกับนายไข่ฮักลักม้าของหมื่นเดชไปจริง ที่ศาลศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษพิพากษาลงโทษนายกลั่นจำเลยดังกล่าวมานั้นชอบด้วยทางพิจารณาแล้ว ให้ยกฎีกาอ้ายกลั่นจำเลยเสีย ฯ