คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2029/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้อความในเอกสารซึ่งมีความหมายว่า จำเลยที่ 2และที่ 3 ขอรับรองจำเลยที่ 1 ว่ามีฐานะสมควรที่จะเป็นผู้จำหน่ายสินค้าของโจทก์ได้ ถ้าจำเลยที่ 1 ไม่ชำระหนี้จำเลยที่ 2 และที่ 3 จะชำระแทนนั้น เป็นเอกสารที่แสดงว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 ค้ำประกันหนี้ของจำเลยที่ 1ในอนาคตและเป็นการค้ำประกันไม่จำกัดจำนวนต่อโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 2 และที่ 3 ได้ทำหนังสือค้ำประกันการชำระหนี้ค่าสินค้าที่จำเลยที่ 1 จะซื้อสินค้าไปจากโจทก์ต่อมาระหว่างเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม 2537 จำเลยที่ 1ซื้อสินค้าไปจากโจทก์ และเป็นหนี้ค่าสินค้าจำนวน2,702,876.41 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ7.5 ต่อปีนับแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2538 ถึงวันฟ้องเป็นเงิน138,846.39 บาท รวม 2,841,722.80 บาท จำเลยที่ 2และที่ 3 เป็นผู้ค้ำประกันจะต้องร่วมรับผิดชำระหนี้กับจำเลยที่ 1ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามชำระเงินจำนวน 2,841,740.80 บาทพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน2,702,876.41 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้การว่า หนังสือเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 4 ไม่ใช่หนังสือค้ำประกัน แต่เป็นหนังสือที่จำเลยที่ 2และที่ 3 รับรองฐานะของจำเลยที่ 1 ว่าจำเลยที่ 1 มีฐานะสมควรที่จะเป็นผู้จำหน่ายสินค้าของโจทก์ได้ ในหนังสือดังกล่าวจำเลยที่ 2 และที่ 3 ลงชื่อไว้ในฐานะผู้รับรองไม่ใช่ฐานะผู้ค้ำประกัน ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินจำนวน2,702,876.41 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2538 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 และที่ 3
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า หากจำเลยที่ 1 ไม่ชำระให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 ร่วมรับผิดชำระหนี้แทน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 3 ว่า จำเลยที่ 3 จะต้องรับผิดต่อโจทก์ในฐานะผู้ค้ำประกันหรือไม่ โดยจำเลยที่ 3 ฎีกาว่า ข้อความในเอกสารหมายจ.43 เป็นเพียงจำเลยที่ 3 รับรองต่อโจทก์ว่าจำเลยที่ 1 มีฐานะสมควรที่จะเป็นผู้จำหน่ายสินค้าของโจทก์ได้เท่านั้น ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 3 ค้ำประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์นั้นเอกสารหมาย จ.43 ที่โจทก์อ้างว่าเป็นหนังสือค้ำประกันมีใจความว่าตามที่จำเลยที่ 1 ตั้งสำนักงานอยู่ ณ บ้านเลขที่ 1671ถนนพระราม 6 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานครได้ติดต่อขอเป็นผู้จำหน่ายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเสียงโทรศัพท์ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จากโจทก์ และโจทก์ต้องการหนังสือรับรองจากผู้เชื่อถือได้มาประกอบการพิจารณาอนุมัติด้วยนั้นข้าพเจ้าจึงขอรับรองร้านค้าและบุคคลดังกล่าวต่อโจทก์ว่ามีฐานะสมควรที่จะเป็นผู้จำหน่ายสินค้าของโจทก์ได้ ทั้งนี้ข้าพเจ้ายินดีค้ำประกันภาระหนี้สินของบุคคลดังกล่าวด้วยลงชื่อ จำเลยที่ 2 และที่ 3 ผู้รับรอง ลงชื่อนายโพธิ์ทอง มหาวัยพนักงานขายประจำสาย เห็นว่า เอกสารดังกล่าวมีความหมายว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 ขอรับรองจำเลยที่ 1 ว่ามีฐานะสมควรที่จะเป็นผู้จำหน่ายสินค้าของโจทก์ได้ ถ้าจำเลยที่ 1 ไม่ชำระหนี้จำเลยที่ 2 และที่ 3 จะชำระแทน ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าเอกสารหมาย จ.43 เป็นเอกสารที่แสดงว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3ค้ำประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 ในอนาคต และเป็นการค้ำประกันไม่จำกัดจำนวนต่อโจทก์ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
พิพากษายืน

Share