คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2020/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คำร้องขอให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำยึดไว้โดยเหตุที่ลูกหนี้และเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาสามารถหักกลบลบหนี้กันได้นั้น ทรัพย์สินที่ถูกยึดจะต้องเป็นของลูกหนี้ตามคำพิพากษาผู้ยื่นคำร้องเท่านั้น การที่โจทก์นำยึดทรัพย์จำนองของจำเลยที่ 3 เพื่อขายทอดตลาดเอาเงินใช้หนี้ตามคำพิพากษา แม้จำเลยที่ 1 จะเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาร่วมกับจำเลยที่ 3 แต่ทรัพย์ที่ยึดก็มิใช่ทรัพย์ของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงไม่อาจขอให้งดการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 293 ได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์จำเลยทั้งสามไม่ชำระหนี้ โจทก์ขอให้ศาลออกหมายบังคับคดียึดทรัพย์จำนองคือที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ 3 ออกขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์สินไว้ก่อนโดยอ้างว่า จำเลยที่ 1 ได้ยื่นฟ้องโจทก์กับพวกต่อศาลชั้นต้นศาลเดียวกันให้ร่วมรับผิดชดใช้ราคาที่ดิน ซึ่งหากจำเลยที่ 1 ชนะคดีจะไม่ต้องขายทอดตลาดทรัพย์สินที่โจทก์นำยึดเพราะสามารถหักกลบลบหนี้กันได้ และการงดการขายทอดตลาดไว้ไม่ทำให้โจทก์เสียหายศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ไม่มีเหตุให้งดการบังคับคดี ยกคำร้อง จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาวินิจฉัยมีว่า ตามคำร้องของจำเลยที่ 1 มีเหตุที่จะขอให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่โจทก์นำยึดตามคำร้องของจำเลยที่ 1 หรือไม่ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 293 วรรคแรก บัญญัติว่า “ลูกหนี้ตามคำพิพากษาอาจยื่นคำขอทำเป็นคำร้องต่อศาลให้งดการบังคับคดีไว้ โดยเหตุที่ตนได้ยื่นฟ้องเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเป็นคดีเรื่องอื่นในศาลเดียวกันนั้น ซึ่งศาลยังมิได้วินิจฉัยชี้ขาด และถ้าหากตนเป็นฝ่ายชนะ จะไม่ต้องมีการขายทอดตลาดหรือจำหน่ายทรัพย์สินของตนโดยวิธีอื่น เพราะสามารถจะหักกลบลบหนี้กันได้” ศาลฎีกาเห็นว่า ตามบทบัญญัติดังกล่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่ถูกเจ้าหนี้ตามคำพิพากษายึดทรัพย์สินเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ แล้วจะไม่ต้องมีการขายทอดตลาดหรือจำหน่ายทรัพย์สินนั้น เนื่องจากลูกหนี้กับเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาสามารถจะหักกลบลบหนี้กันได้ ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวจะต้องเป็นของลูกหนี้ตามคำพิพากษาผู้ยื่นคำขอให้งดการบังคับคดีเท่านั้น คดีนี้โจทก์ขอให้บังคับคดี โดยนำยึดทรัพย์จำนองคือ ที่ดินโฉนดเลขที่ 16518 ของจำเลยที่ 3 พร้อมสิ่งปลูกสร้างเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษา แม้จำเลยที่ 1จะเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาร่วมกับจำเลยที่ 3 แต่ทรัพย์จำนองคือที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่โจทก์นำยึดเพื่อขายทอดตลาดดังกล่าวไม่ใช่เป็นทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงไม่อาจขอให้งดการบังคับคดีได้ตามคำร้อง ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งและพิพากษาให้ยกคำร้องชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share