แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ผู้คัดค้าน ผู้คัดค้านฎีกาว่า ผู้คัดค้านได้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำลำน้ำไปก่อนแล้ว สิ่งปลูกสร้างที่เหลือไม่ใช่บริเวณที่ผู้ร้องต้องการให้ผู้คัดค้านรื้อถอนออกไป ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิขับไล่ผู้คัดค้าน เป็นฎีกาที่มิได้โต้แย้งคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ว่าไม่ถูกต้อง จึงไม่ชอบ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าพนักงานมีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช ๒๔๕๖ ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านรื้อถอนแพอาหารบัวริมแควออกไปเสียจากแม่น้ำแควใหญ่ตามกำหนดที่ศาลเห็นสมควร หากไม่ยอมปฏิบัติตามขอให้ผู้ร้องหรือผู้แทนเป็นผู้จัดการรื้อถอนภายในกำหนดเวลาดังกล่าว โดยให้ผู้คัดค้านเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้คัดค้านได้ปลูกสร้างแพเพื่อประกอบกิจการขายอาหารจริง แต่ผู้คัดค้านได้ยื่นคำร้องปลูกสร้างโดยถูกต้องต่อเทศบาลเมืองกาญจนบุรีเมื่อประมาณ ๑๐ ปีมาแล้ว ขณะนั้นบริเวณที่ผู้คัดค้านปลูกสร้างยังคงเป็นพื้นดิน ผู้คัดค้านไม่ได้ล่วงล้ำเข้าไปเหนือน้ำ ในน้ำ และใต้น้ำของแม่น้ำแควใหญ่แต่อย่างใด แต่ต่อมาถูกกระแสน้ำเซาะตลิ่งเข้ามาจนเป็นเหตุให้บริเวณพื้นดินดังกล่าวพังลง บริเวณดังกล่าวมิได้เป็นทางสัญจรของประชาชนหรือที่ซึ่งประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน เมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๓๔ ผู้คัดค้านเสียค่าปรับให้แก่เจ้าท่าภูมิภาคที่ ๔ (ที่ถูกเจ้าท่าภูมิภาคที่ ๓) จริงแต่เป็นเรื่องมิใช่เกิดจากการละเมิดต่อผู้ร้อง ผู้คัดค้านไม่เคยได้รับหนังสือให้จัดการรื้อถอนแพอาหารจากผู้ร้องแต่อย่างใด ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้ผู้คัดค้านรื้อถอนสิ่งที่ล่วงล้ำลำน้ำออกไปให้พ้นเสียจากแม่น้ำแควใหญ่ (แม่น้ำแม่กลอง) ภายในกำหนด ๓๐ วัน นับแต่วันทราบคำพิพากษา หากไม่ยอมรื้อถอนภายในกำหนดเวลา ให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการให้มีการรื้อถอน โดยให้ผู้ร้องใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่พฤติการณ์และให้ผู้คัดค้านเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายในการนั้น
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๗ พิพากษายกอุทธรณ์ผู้คัดค้าน
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยแล้ว เห็นว่า ผู้คัดค้านฎีกาว่า ผู้คัดค้านได้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำลำน้ำไปก่อนแล้ว สิ่งปลูกสร้างที่เหลือตามภาพถ่ายหมาย ร. ๒ และ ร. ๓ (ที่ถูกตามแผนที่และภาพถ่ายเอกสารหมาย ร. ๒ และ ร. ๓) จึงไม่ใช่บริเวณที่ผู้ร้องต้องการให้ผู้คัดค้านรื้อถอนออกไป ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิขับไล่ผู้คัดค้านนั้น ฎีกาของผู้คัดค้านดังกล่าวเป็นฎีกาที่มิได้โต้แย้งคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค ๗ ว่าไม่ถูกต้องแต่อย่างใด ฎีกาของผู้คัดค้านจึงไม่ชอบ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๙ วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายกฎีกาผู้คัดค้าน.