คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 202/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรนั้น โจทก์ร่วมไม่ใช่เป็นผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานนี้โดยตรง จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย
รอยบาดเจ็บเพียงโหนกแก้มถลอกโตกลมประมาณ 3 เซ็นติเมตร เข่าบวมโตกลมประมาณ 5 เซ็นติเมตร ข้อศอกหนังถลอกโตกลมประมาณ 5 เซ็นติเมตร รักษาประมาณ 4 วัน ยังไม่เป็นอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 390

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรและประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๐ ให้ปรับ ๖๐๐ บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ร่วมฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า สำหรับความผิดพระราชบัญญัติจราจรฯ โจทก์ร่วมไม่ใช่ผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานนี้โดยตรง โจทก์ร่วมจึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๒(๔) ไม่มีสิทธิฎีกา ขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดตามพระราชบัญญัติจราจร
สำหรับความผิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๙๐ นั้น ปรากฏว่านายวิชัยโจทก์ร่วมได้รับบาดเจ็บเพียงโหนกแก้มขวาหนังถลอกโตกลมประมาณ ๓ เซ็นติเมตร เข่าขวาบวมโตกลมประมาณ ๕ เซ็นติเมตร ศอกซ้ายรอยหนังถลอกโตกลมประมาณ ๕ เซ็นติเมตร รักษาประมาณ ๔ วัน ยังถือไม่ได้ว่านายวิชัยโจทก์ร่วมได้รับอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๙๐ เมื่อคดีไม่มีทางลงโทษตามมาตรา ๓๙๐ ได้ ศาลฎีกาไม่จำต้องวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำโดยประมาทหรือไม่ พิพากษายืน.

Share