คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 202/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ยกที่ดินถวายวัด และได้เช่าและส่งค่าเช่าให้วัดมากว่า 10 ปีวัดย่อมได้กรรมสิทธิ์เป็นที่ธรณีสงฆ์

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังว่า ที่รายพิพาทเป็นที่ของวัดให้ถอนชื่อจำเลยออกจากตราจอง โอนให้เป็นของวัดต่อไป

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อตัดฟ้อง (เรื่องอำนาจฟ้อง) นั้นศาลชั้นต้นให้ยกฟ้อง จำเลยมีสิทธิ์อุทธรณ์ได้ภายใน 1 เดือนตามมาตรา 228 แต่จำเลยไม่อุทธรณ์ภายในกำหนดและไม่ได้โต้แย้งคำสั่งไว้ตาม มาตรา 226 จึงไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์อีกภายหลังแล้วศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า นางปิ่นและบรรดาทายาทของนางปิ่นได้ยกกรรมสิทธิ์ที่วิวาทให้เป็นของวัดคู้บางขันแตกแล้วนางปิ่นกระทำเช่าและส่งค่าเช่าถวายวัดตลอดมาจนกระทั่งนางปิ่นตายแล้วจำเลยกับบุตรเขยเช่าทำต่อมา แม้ตราจองที่พิพาทมีชื่อนางปิ่นแต่พฤติการณ์แสดงว่า นางปิ่นกับบรรดาทายาทได้สละกรรมสิทธิ์ถวายให้เป็นสมบัติของวัด ต้องด้วยลักษณะประเภทที่ธรณีสงฆ์วัดครอบครองมาด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตามศรัทธาของผู้อุทิศถวายโดยให้เช่าตลอดมากว่า 10 ปี ย่อมได้กรรมสิทธิ์ตาม มาตรา 1382 จึงพิพากษายืน

Share