คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 202/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ยกที่ดินถวายวัดและได้เช่าและส่งค่าเช่าให้วัดมากว่า 10 ปี วัดย่อมได้กรรมสิทธิ์เป็นที่ธรณีสงฆ์

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังว่า ที่รายพิพาทเป็นที่ของวัดให้ถอนชื่อจำเลยออกจากตราจอง โอนให้เป็นของวัดต่อไป
จำเลยฎีกา,
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อตัดฟ้อง (เรื่องอำนาจฟ้อง) นั้น ศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องจำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ได้ภายใน ๑ เดือนตามมาตรา ๒๑๘ แต่จำเลยไม่อุทธรณ์ภายในกำหนดและไม่ได้โต้แย้งคำสั่งไว้ตาม มาตรา + จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์อีกภายหลัง
แล้วศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า นางปิ่นและบรรดาทายาทของนางปิ่นได้ยกกรรมสิทธิ์ที่วิวาทให้เป็นของวัดตู้บางขันแตกแล้วนางปิ่น+ทำเช่าและส่งค่าเช่าถวายวัด+จนกระทั้งนางปิ่นตายแล้ว จำเลยกับบุตรเขยเช่าทำต่อมา +ที่พิพากมีชื่อนางปิ่น แต่พฤติการณ์แสดงว่า นางปิ่นกับบรรดาทายาทได้สละกรรมสิทธิ์ถวายให้เป็นสมบัติของวัด ต้องด้วยลักษณะประเภทที่ธรณีสงฆ์ วัดครอบครองมาด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตามศรัทธาของผู้อุทิศถวายโดยให้เช่าตลอดมากกว่า ๑๐ ปี ย่อมได้กรรมสิทธิ์ตาม มาตรา ๑๓๘๒ จึงพิพากษายืน

Share