แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษารวมกระทงลงโทษจำเลยสำหรับความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 243 และ 276 เมื่อผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์หรือยอมความกับจำเลยสำหรับความผิดตาม มาตรา 243 แล้ว ศาลฎีกาพิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตาม มาตรา 276 เพียงกระทงเดียว และศาลฎีกามีอำนาจกำหนดโทษสำหรับความผิดตาม มาตรา 276 ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองมีมีดสมคบกันฉุดคร่า น.ส.เกียะ หรือยุพิน อายุ 19 ปี ไปเพื่อการอนาจาร ทำให้ น.ส.เกียะ หรือยุพิน และมารดา ซึ่งเข้าช่วยเหลือมีบาดแผลไม่ถึงบาดเจ็บ และจำเลยที่ 1 ข่มขืนกระทำชำเรา น.ส.เกียะหรือยุพินจนสำเร็จความใคร่ ขอให้ลงโทษ
จำเลยทั้งสองรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีเฉพาะจำเลยที่ 2 ไป ส่วนจำเลยที่ 1 โจทก์ขอสืบพยานประกอบ
เมื่อโจทก์สืบพยานแล้ว ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 ผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 243 และ 276 รวมกระทงลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน ลดตาม มาตรา 58 ทวิและ 59 ลงอีก คงให้จำคุก 4 เดือน15 วัน เฉพาะข้อหาฐานทำร้ายร่างกายให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 1
โจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยที่ 1 ผิด มาตรา 243, 276 ให้รวมกระทงลงโทษจำคุก 8 ปี ลดตาม มาตรา 58 ทวิ และ 59 ลงอีก คงให้จำคุก 2 ปี 8 เดือน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกา และในวันเดียวกันนั้น นางยุพินยื่นคำร้องขอถอนคดี ไม่ติดใจว่ากล่าวเอาความแก่จำเลย และนางยุพินแถลงว่าอายุ 21 ปีแล้ว
ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษารวมกระทงลงโทษจำเลยสำหรับความผิดทั้งสองฐาน เมื่อผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์หรือยอมความกับจำเลยสำหรับความผิดตาม มาตรา 243 แล้ว ศาลฎีกาจึงเห็นสมควรพิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยคงมีความผิดฐานฉุดคร่าเพื่อการอนาจารแต่เพียงกระทงเดียว ให้ลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน ลดตาม มาตรา 58 ทวิ,และ 59 ลงอีก คงให้จำคุก 4 เดือน 15 วัน