คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2006/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ขอรับชำระหนี้เป็นผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ซึ่งเป็นภริยาให้ ยื่นฟ้องจำเลยล้มละลายและได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้เงินกู้ตามเช็คหลายฉบับ เช็คบางฉบับลงวันที่สั่งจ่ายก่อนวันที่จำเลยถูกฟ้องเพียง 10 วัน ถึง 3 เดือนเศษ บางฉบับลงวันที่สั่งจ่ายหลังวันที่จำเลยถูกฟ้องล้มละลายแล้ว และบางฉบับลงวันที่สั่งจ่ายหลังวันศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยผู้ขอรับชำระหนี้ไม่มีหลักฐานการกู้เป็นหนังสือมาแสดงและไม่มีพยานรู้เห็น ทั้งยังปรากฏว่าผู้ขอรับชำระหนี้รู้จักจำเลยทั้งสองมา 6-7 ปีเศษมีความสนิทสนมเคยติดต่อทำธุรกิจระหว่างกันและทราบดีว่าจำเลยที่ 1 มีหนี้สินล้นพ้นตัวก่อนที่จำเลยจะถูกฟ้องประมาณ 2-3 เดือน ยิ่งกว่านั้นก่อนนั้นขึ้นไปจำเลยที่ 1 เคยสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ขอรับชำระหนี้หลายฉบับซึ่งถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินมาแล้ว ดังนี้ พฤติการณ์ย่อมเห็นได้ว่าเช็คที่ขอรับชำระหนี้เป็นเช็คที่เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำขึ้นเมื่อเจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว จึงเป็นหนี้ที่ขอรับชำระไม่ได้ในคดีล้มละลายตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 94(2)

ย่อยาว

คดีนี้ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยทั้งสองเด็ดขาด นายสุรินทร์ รัตนสุนทรเจ้าหนี้รายที่ 1 ยื่นคำขอรับชำระหนี้เงินกู้ตามเช็ค 16 ฉบับ กับดอกเบี้ยเป็นเงิน220,000 บาท ไม่มีผู้โต้แย้งคำขอรับชำระหนี้รายนี้

ศาลชั้นต้นสั่งยกคำขอรับชำระหนี้ตามความเห็นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

ผู้ขอรับชำระหนี้อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้เจ้าหนี้รายที่ 1 ได้รับชำระหนี้ตามเช็ค 7 ฉบับรวมเป็นเงิน 76,000 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้นายสุรินทร์เจ้าหนี้รายที่ 1 ได้รับมอบอำนาจจากนายบุญนาคภริยาตนเองให้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยล้มละลายเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม2521 เช็คในรายการที่ 1, 2, 3 ที่รอรับชำระหนี้นี้เป็นเช็คซึ่งลงวันที่สั่งจ่ายก่อนวันที่จำเลยถูกฟ้องเพียง 10 วัน ถึง 3 เดือนเศษ เช็คในรายการที่ 4, 5 เป็นเช็คลงวันที่หลังวันที่จำเลยถูกฟ้องล้มละลายแล้ว ส่วนเช็คในรายการที่ 6, 7 ก็เป็นเช็คซึ่งลงวันที่หลังวันพิทักษ์ทรัพย์นายสุรินทร์ รัตนสุนทร เจ้าหนี้รายที่ 1 ได้ให้การต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไว้ในสำนวนสอบสวนคำขอรับชำระหนี้รายที่ 21 ว่า ตนรู้จักจำเลยทั้งสองมา 6 – 7 ปีเศษ มีความสนิทสนมกันขนาดที่จำเลยที่ 1 เรียกนายสุรินทร์เจ้าหนี้ว่าป๋าทุกคำ และนายสุรินทร์เป็นผู้รับซื้อโรงแรมไมอามี่ของจำเลยไว้ดำเนินการโดยซื้อต่อจากนายแสงโดยเฉพาะนายสุรินทร์ให้การว่าตนทราบว่าจำเลยที่ 1 มีหนี้สินล้นพ้นตัวก่อนที่จำเลยจะถูกฟ้องประมาณ 2 – 3 เดือน ยิ่งกว่านั้นคดียังปรากฏว่าก่อนนั้นขึ้นไป จำเลยที่ 1เคยสั่งจ่ายเช็คให้นายสุรินทร์หลายฉบับซึ่งถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินมาแล้วตามเช็คลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2521, 11 มีนาคม 2521, 15 มีนาคม 2521, 22 มีนาคม 2521, 30 มีนาคม 2521, 30 เมษายน 2521, 30 พฤษภาคม 2521,30 มิถุนายน 2521, และ 30 กรกฎาคม 2521 ดังปรากฏหลักฐานตามใบคืนเช็คของธนาคารโดยแจ้งชัดอยู่ในสำนวนคำขอรับชำระหนี้รายที่ 1 แล้ว ฉะนั้นที่นายสุรินทร์เจ้าหนี้รายที่ 1 อ้างว่า จำเลยที่ 1 เป็นหนี้เงินกู้ตามเช็คทั้ง 7 ฉบับ โดยไม่มีหลักฐานการกู้เป็นหนังสือแต่อย่างใดและลูกหนี้จะยืมเงินไปเมื่อใดก็จำไม่ได้ ทั้งไม่มีพยานรู้เห็นพฤติการณ์เห็นได้ว่าเช็คเหล่านี้เป็นเช็คที่เจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำขึ้นเมื่อเจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว จึงเป็นหนี้ที่ขอรับชำระไม่ได้ในคดีล้มละลายตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 94(2)

พิพากษากลับ ให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของนายสุรินทร์ รัตนสุนทร เจ้าหนี้รายที่ 1 เสีย

Share