คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 200/2463

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้กรรมการตรวจฎีกาจำเลย อุทธรณคำพิพากษา ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษ

ย่อยาว

ได้ความว่าที่ดินรายพิภาษตำบลสามโคกนี้เดิมเปนของนายนกกฤษ นางฟุ้ง นางฟุ้งตายก่อนนายนกฤษตายเมื่อ พ.ศ.๒๔๕๘ ที่ดินคงเปนมรฎกตกแก่นางบุญกลิ่น (ภรรยานายแดงแลมารดานายกิมลี้โจทย์) นางเหงี่ยม (ภรรยานายปีแลผู้เปนมารดานายทวีจำเลย) กับนางแถมผู้เปนบุตรีของนายนกกฤษปกครองต่อมา ที่ดินรายนี้ไม่มีโฉนด มีแต่ใบไต่สวน ๆ นั้นมีชื่อนางเหงี่ยมกับนางแถม ๒ คน ภายหลังนางบุญกลิ่นแลนางเหงี่ยมตาย นายทวีบุตรนางเหงี่ยมออกจากที่ไป นายปีผู้เปนบิดานายทวีกับนางแถมจำเลยแลโจทย์ปกครองอยู่ในที่ บัดนี้เจ้าพนักงานจะออกโฉนดให้แก่นายทวี โจทย์จึงได้ฟ้องขอแบ่งที่รายนี้กับนางแถมจำเลย แลตัดว่านายทวีได้ละทิ้งที่ไปช้านานขาดอายุทางปกครองแล้ว ฯ
จำเลยสู้ความว่าเมื่อนางฟุ้งตายแล้ว นายนกกฤษผู้เปนตาของนายทวีแลเปนบิดานางแถมจำเลยได้ยกที่ดินรายนี้ให้เปนสิทธิแก่นางเหงี่ยมมารดานายทวีแลนางแถมจำเลย แลได้ลงชื่อนางเหงี่ยมกับนางแถมไว้ในใบไต่สวน ส่วนข้อที่ว่านายทวีละทิ้งนั้น จำเลยแก้ว่านายปีบิดานายทวียังได้เปนผู้ปกครองอยู่ ฯ
ศาลจังหวัดประทุมธานีไม่สืบพยานโจทย์จำเลย จดแต่รายงานแลเครือญาติดังนี้ ฯ
นายนกกฤษ – นางฟุ้ง
นางบุญกลิ่น นางเหงี่ยม นางแถม นายอิน
ตาย ตาย จำเลย
นายกิมลี้ ทวี
โจทย์ จำเลย
แล้วตัดสินว่าใบไต่สวนมีชื่อนางเหงี่ยมกับนางแถม โดยนายนกกฤษผู้ตายได้ตั้งใจว่าจะยกให้ เมื่อนายนกฤษตาย ตามกฎหมายที่ดินรายนี้เปนสิทธิของนางเหงี่ยม นางแถมทันที จึงพิพากษาให้ยกฟ้องโจทย์ให้โจทย์เสียค่าธรรมเนียมแทนจำเลย ฯ
โจทย์อุทธรณ ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษมีคำสั่งให้สืบพยานเพิ่มเติมในข้อที่จำเลยอ้างว่านายนกกฤษยกที่ดินให้แก่จำเลยเสร็จแล้วพิพากษาว่าการที่นายนกกฤษใส่ชื่อนางเหงี่ยม นางแถมจำเลยในใบไต่สวนนั้น ก็เพื่อแสดงความประสงค์ว่าได้ตั้งใจจะลงชื่อผู้ที่กล่าวชื่อมาแล้วในโฉนดให้เปนเจ้าของเท่านั้น จะฟังว่าเปนเจ้าของเหมือนอย่างมีชื่อในโฉนดทีเดียวไม่ได้ ฎีกาที่ ๓๗๕/๒๔๕๗ ที่ดินรายนี้ต้องเปนมรฎกตกได้แก่บุตรหลานของผู้ตาย ส่วนนายทวีนั้นถึงจะออกจากที่ไป บิดาของนายทวีก็ปกครองแทน ไม่เรียกว่าละทิ้ง เทียบตามคำพิพากษาฎีกาที่ ๔๗๐/๒๔๖๐ แลปรากฎในทางพิจารณาว่า นายอินบุตรของนายนกกฤษผู้ตายยังมีชีวิตอยู่ ให้กลับคำตัดสินศาลเดิม เอาที่ดินรายนี้ออกประมูลราคาขายทอดตลาดได้เงินเท่าใดชักออกเปนค่าธรรมเนียมทั้ง ๒ ฝ่าย แลให้เปนค่าทนายฝ่ายละ ๑๒ บาท ๕๐ สตางค์ เหลือจากนั้นแบ่งออกเปน ๔ ส่วน ให้แก่โจทย์ ๑ ส่วน นายทวี ๑ ส่วน นางแถม ๑ ส่วน นายอิน ๑ ส่วน ถ้านายอินไม่เอาส่วนก็ไม่ต้องแบ่งให้ ให้คงแบ่งเปน ๓ ส่วนตามที่มีตัวผู้ควรได้คนละส่วนเท่ากัน ฯ
จำเลยทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษ ฯ
กรรมการศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนเรื่องนี้แล้ว ทางพิจารณาได้ความดังที่กล่าวมาข้างต้น จำเลยไม่มีพยานสืบในข้อที่ว่านายนกกฤษผู้ตายได้ยกที่รายนี้ให้แก่นางเหงี่ยมแลนางแถมจำเลยแต่เมื่อใดได้ความแต่เพียงว่านางเหงี่ยมแลนางแถมจำเลยมีชื่อในใบไต่สวนเท่านั้น การที่มีชื่ในใบไต่สวนจะฟังว่าเปนเจ้าของอย่างชื่อในโฉนดแผนที่ไม่ได้ ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษตัดสินแบ่งที่ดินให้แก่โจทย์จำเลยถูกต้องแล้ว ให้ยกฎีกาจำเลยเสีย ให้ค่าธรรมเนียมในชั้นฎีกานี้เปนภัพแก่จำเลยไป ฯ

Share