คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 20/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจร จำเลยปฏิเสธต่อสู่กรรมสิทธิว่าทรัพย์ของกลาง (ราคา 700 บาท) เป็นของจำเลยเมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาว่า ทรัพย์ของกลางเป็นของผู้เสียหาย ให้คืนแก่ผู้เสียหายแม้ศาลชั้นต้นจะลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ และศาลอุทธรณ์กลับมา จำเลยยังไม่ผิดในทางอาญา ให้ยกฟ้อง ก็ตาม จำเลยก็จะฎีกาเถียงข้อเท็จจริงว่า ทรัพย์ของกลางเป็นของจำเลยไม่ได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์ หรือรับของโจร ขอให้ลงโทษ
จำเลยปฏิเสธ ต่อสู้ว่าทรัพย์ของกลางเป็นของจำเลย.
ศาลชั้นต้นฟังว่า ่จำเลยลักรถจักรยาน (ราคา ๗๐๐ บาท) ของผู้เสียหายไปจริง จึงพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๘๘.
โจทก์จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การที่จำเลยได้รถจักรยานของกลางไป ก็โดยจำเลยให้น้องผู้เสียหายยืมรถนี้มา แล้ว จำเลยไม่คืนให้ จึงไม่เป็นผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้อง. คืนของกลางให้ผู้เสียหาย
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาว่า รถจักรยานของกลางรายนี้เป็นของผู้เสียหายให้คืนแก่ผู้เสียหาย ่จำเลยจะฎีกาเถียงข้อเท็จจริงว่า รถจักรยานของกลาง เป็นของจำเลยไม่ได้ ต้องห้ามมิให้ฎีกา
ส่วนฎีกาของโจทก์ ฯลฯ ฟังไม่ได้ จึงพิพากษายืน.

Share