คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199-200/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทรัพย์สินที่ภรรยาได้มาโดยมารดายกให้ในระหว่างสมรสย่อมเป็นสินสมรส
โจทก์ฟ้องขอแบ่งสินสมรสของบิดามารดาจากจำเลย จำเลยต่อสู้ว่ามิใช่เป็นสมรสของบิดามารดา แต่เป็นสินสมรสของจำเลยกับสามีดังนี้ แม้จะได้ความว่า ทรัพย์นั้นเป็นของบิดามารดา แต่เมื่อมารดายกให้จำเลยแล้ว ศาลก็ย่อมฟังในข้อยกให้เป็นข้อสนับสนุนของจำเลยได้ไม่เป็นการนอกประเด็น

ย่อยาว

คดีมีปัญหาขึ้นมาสู่ศาลฎีกาเฉพาะสำนวนนางเพ็งโจทก์ นางกลมจำเลย คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยเป็นบุตร์นายเรืองนางหมา เมื่อนายเรืองนางหมาวายชนม์แล้ว จำเลยครอบครองทรัพย์มฤดกเสียผู้เดียว จึงฟ้องขอแบ่งกึ่งหนึ่ง
จำเลยให้การว่า เรือนและยุ้งข้าวนั้นมิใช่สินสมรสของนายเรืองนางหมา เป็นสินสมรสของจำเลยกับนายลอยสามี มีขึ้นระหว่างเป็นสามีภรรยากัน ส่วนเกวียนจำเลยซื้อมาจากผู้มีชื่อ ๓๐ ปีเศษแล้ว
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงตามจำเลย พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เรือนและยุ้งเป็นทรัพย์ของนายเรืองนางหมา จำเลยต่อสู้ว่าเป็นสินสมรสของจำเลย จึงไม่มีประเด็นไปถึงว่า นางหมาได้ยกให้จำเลยหรือเปล่า จึงพิพากษาแก้ให้ประมูลหรือขายทอดตลาดเรือนและยุ้งข้าวแบ่งคนละกึ่ง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เรือนและยุ้งข้าวนั้น ฟังได้ว่า นางหมายกให้แก่จำเลยแล้ว ฉะนั้น เรื่อนและยุ้งข้าวจึงไม่ใข่สินสมรสของนายเรืองนางหมาดังฟ้องของโจทก์ และเห็นว่า ข้อที่นางหมายกให้จำเลยนี้ เป็นประเด็นข้อสนับสนุนคดีฝ่ายจำเลย เพราะเมื่อนางหมายกให้จำเลยแล้ว ก็ย่อมเป็นสินสมรสของจำเลยกับสามี จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้องนางเพ็งโจทก์เสีย

Share