คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1984/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายจ่ายเงินให้แก่องค์การณ์ซึ่งปฏิบัติหน้าที่สงเคราะห์ชนชาติอังกฤษในไทยในระหว่างสงคราม บัดนี้ชนชาติอังกฤษนำคืนมาเพื่อคืนแก่ผู้ที่ควรได้รับเงิน แต่โจทก์จำเลยต่างโต้เถียงกัน ดังนี้ โจทก์มาฟ้องจำเลยต่อศาลขอให้แสดงว่าตนอยู่ในฐานะที่ควรได้รับเงินตามความประสงค์ของผู้จ่ายได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 25/2492)

ย่อยาว

ความว่า กรมหมื่นพิทยาฯ ได้จ่ายเงิน ๕๐,๐๐๐ บาทแก่องค์การ “วี” เพื่อใช้จ่ายอุปการะแก่เชลยคืนในระหว่างสงครามเอเชียตะวันออก ในใบรับว่าจะใช้เงินให้ภายหลังสงครามเป็นเงินปอนด์ ๓๗๕๐ ปอนด์ ซึ่งกรมหมื่นพิทยาฯ ให้จำเลยไปรับมา แต่แล้วพระองค์ท่านได้ทำลายเสีย ให้ผู้อื่นไปรับใบรับมาใหม่ในนามแฝงว่า “เอกซ” บัดนี้ผู้ถือเงินจะจ่ายคืนเงินดังกล่าวแก่เจ้าของเงิน แต่กรมหมื่นพิทยาฯ สิ้นพระชนม์เสีย โจทก์,จำเลยต่างแสดงตัวโต้เถียงกันว่าตนเป็นผู้สมควรได้รับเงินดังกล่าว
ศาลชั้นต้นเห็นว่า กรมหมื่นพิทยาฯ และโจทก์ได้สละเป็นการกุศลเพื่อบรรเทาทุกข์ชนชาติสัตรู ที่ทรงฝักใฝ่โดยผิดกฎหมาย โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้อง เมื่อผู้ถือเงินเห็นควรจ่ายให้ใคร ผู้นั้นก็มีสิทธิได้รับและวินิจฉัยว่าผู้ถือเงินเห็นควรจ่ายให้จำเลย พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เป็นการให้เพื่อการกุศลและองค์การนั้นผิดกฎหมาย แต่ไม่เห็นพ้องด้วยตามศาลชั้นต้นที่วินิจฉัยเลยไปว่า ผู้ถือเงินเห็นสมควรจ่ายให้จำเลย คงพิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อโจทก์จำเลยมีข้อพิพาทโต้แย้งกันเช่นนี้ โจทก์ย่อมฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าตนเป็นผู้อยู่ในฐานที่ควรจะได้รับเงินตามความประสงค์ของผู้จ่ายได้และกรณีจะคืนเงินแก่ฝ่ายที่ให้ยืมเงินบรรเทาทุกข์เช่นนี้ไม่เป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายแต่อย่างใด และวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับมรดกของกรมหมื่นพิทยาฯ ตามพินัยกรรมเป็นผู้สมควรได้รับเงินรายนี้
พิพากษากลับว่า โจทก์อยู่ในฐานะเป็นผู้สมควรได้รับเงินตามความประสงค์ของผู้จ่าย

Share