แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในฟ้องความผิดฐานรับของโจร โจทก์ไม่จำเป็นต้องระบุชื่อผู้รับของกลางไว้จากจำเลย เมื่อปรากฏว่าโจทก์นำพยานบุคคลผู้รับของกลางไว้จากจำเลยเข้าสืบแล้ว จำเลยยังจะว่าหลงข้อต่อสู้ หาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อเวลากลางวัน วันที่ 27 พ.ย. 2499 คนร้ายลักจักรยาน 2 ล้อ 1 คันราคา 850 บาท ของ จ.ส.ต.ปัญญาไป ต่อมาวันที่ 1 ธันวาคม 2499 เจ้าทรัพย์ติดตามได้รถจักรยานดังกล่าวคืนจากผู้มีชื่อโดยจำเลยนำไปขายไว้ ทั้งนี้จำเลยได้ลักหรือรับรถของกลางไว้โดยรู้อยู่ว่าเป็นของที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมายและระบุที่เกิดเหตุ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 288, 321
จำเลยให้การปฏิเสธความผิดและต่อสู้ว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมไม่ระบุตัวผู้ได้รถไว้จากจำเลย ทำให้จำเลยไม่เข้าใจข้อหาได้ดีและหลงข้อต่อสู้ ขัดต่อ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลล่างทั้งสองว่า จำเลยผิด กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 321 จำคุก 2 ปี
ข้อที่จำเลยฎีกาว่า ฟ้องเคลือบคลุม ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยให้การปฏิเสธไม่ได้กระทำผิดตามฟ้อง เข้าใจข้อหาแล้วมิได้หลงต่อสู้อย่างใด ถึงคำฟ้องจะมิได้ระบุชื่อผู้รับรถไว้จากจำเลย แต่ก็ปรากฏว่าโจทก์นำสืบ ร.ต.บัวไข พยานโจทก์ว่า เป็นผู้รับ จำเลยยังจะว่าหลงอย่างไร คำฟ้องมิได้เคลือบคลุม