คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1977/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยและพวกร่วมกันมีปืนเป็นอาวุธ พยายามปล้นโคของส.และผ.ผู้ตาย เมื่อผ.ขัดขวางจำเลยใช้อาวุธปืนยิงทำร้ายผ. จนถึงแก่ความตาย ดังนี้เป็นความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่นเพื่อความสะดวกในการกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์ และเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ศาลลงโทษตามมาตรา 289 อันเป็นบทหนัก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยนี้กับพวก 4 คน ได้ร่วมกันมีปืนเป็นอาวุธติดตัวไป กระทำการลักทรัพย์เอาโค 5 ตัว ราคา 7,000 บาท ของนายสุข นางผัน เพ็งจันทร์สามีภรรยาไปโดยสุจริต ในการลักทรัพย์ จำเลยกับพวกได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนและวาจาขู่เข็ญนางผัน เพ็งจันทร์ว่า จะใช้กำลังประทุษร้าย และได้ใช้อาวุธปืนยิงประทุษร้ายนางผัน เพ็งจันทร์ ด้วยเจตนาฆ่าให้ตาย เป็นเหตุให้นางผัน เพ็งจันทร์ได้รับอันตรายแก่กายสาหัสและถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลยกับพวกทั้งนี้เพื่อความสะดวกแก่การลักทรัพย์ พาทรัพย์นั้นไป ยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้เพื่อให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์นั้น เพื่อให้พ้นการจับกุม และการที่จำเลยกับพวกได้ฆ่านางผัน เพ็งจันทร์ ก็เพื่อความสะดวกในการกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์ ซึ่งในการกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์นั้น จำเลยกับพวกได้ลงมือกระทำไปโดยตลอดแล้ว แต่การกระทำไม่บรรลุผลเพราะนางผัน เพ็งจันทร์ได้ขัดขวางมิให้จำเลยกับพวกพาทรัพย์ไปและนายสุข เพ็งจันทร์ได้ตีเกราะสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน จำเลยกับพวกจึงปล้นทรัพย์เอาโคไปไม่สำเร็จสมดังเจตนาของจำเลยกับพวก ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 83, 288, 289, 340, 340 ตรี ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 14, 15

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายกระทงหนึ่ง และมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นเพื่อความสะดวกในการปล้นทรัพย์อีกกระทงหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 83, 340 วรรคท้าย, 340 ตรี, 289 ให้วางโทษประหารชีวิต

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

วินิจฉัยว่าพยานหลักฐานโจทก์ฟังไม่ได้มั่นคงว่า จำเลยและพวกร่วมกันมีปืนเป็นอาวุธ พยายามปล้นโคของนายสุข และนางผันผู้ตาย เมื่อนางผันขัดขวางจำเลยใช้อาวุธปืนยิงทำร้ายนางผันจนถึงแก่ความตาย เป็นความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์ และฆ่าผู้อื่นเพื่อความสะดวกในการกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์ เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท พยานฐานที่อยู่ของจำเลยไม่สามารถหักล้างพยานโจทก์ได้ ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น แต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นว่าเป็นความผิดสองกระทง ไม่ถูกต้อง

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 83, 340 วรรคท้าย, 340 ตรี ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 14, 15 และ 289เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 289 อันเป็นบทหนักตามมาตรา 90 ส่วนโทษคงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share