แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ โดยมิได้บรรยายว่าจำเลยกับพวกได้กระทำโดยแสดงความทารุณจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ใช้ปืนยิงใช้วัตถุระเบิดหรือกระทำทรมาน ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสี่ ด้วยจึงเกินคำขอที่โจทก์กล่าวในฟ้อง ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 และที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2514) ข้อ 15 ด้วยนั้น ยังไม่ถูกต้อง เพราะคดีไม่ได้ความว่าจำเลยเป็นผู้มีหรือใช้อาวุธปืนในการกระทำผิด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกอีก 6 คน มีปืนและไม้ค้อนเป็นอาวุธปล้นทรัพย์ผู้เสียหาย และใช้ไม้ค้อนตีผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 340 ตรี, 83 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2514) ข้อ 14, 15 ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืน
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยร่วมกับพวกปล้นทรัพย์ แต่คดีไม่ได้ความว่าจำเลยเป็นผู้มีหรือใช้อาวุธปืนในการกระทำผิด พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 2 และวรรค 4 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2514) ข้อ 14, 15 จำคุก 15 ปี ให้จำเลยคืนทรัพย์ในราคาที่ยังไม่ได้คืนจำนวน 26,000 บาทแก่ผู้เสียหายด้วย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยกระทำผิด แล้ววินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ โดยมิได้บรรยายว่าจำเลยกับพวกได้กระทำโดยแสดงความทารุณจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ใช้ปืนยิง ใช้วัตถุระเบิด หรือกระทำทรมาร ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 4 ด้วยจึงเกินคำขอที่โจทก์กล่าวในฟ้อง ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 และที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ข้อ 15 ด้วยนั้น เห็นว่ายังไม่ถูกต้อง เพราะคดีไม่ได้ความว่าจำเลยเป็นผู้มีหรือใช้อาวุธปืนในการกระทำผิด
พิพากษากลับว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 2 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2514) ข้อ 14ให้จำคุก 15 ปี ให้จำเลยคืนทรัพย์ในราคาที่ยังไม่ได้คืนจำนวน 26,000 บาทแก่ผู้เสียหายด้วย