คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1970/2521

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยเคยถูก ข. ฟ้องว่าเบิกความเท็จมาแล้ว ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะฟ้องเคลือบคลุม ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) โจทก์มาฟ้องจำเลยในคดีเดียวกันอีก คดีก่อนศาลยังไม่ได้วินิจฉัยความผิดซึ่งได้ฟ้อง ไม่เป็นฟ้องซ้ำตาม มาตรา 39(4)

ย่อยาว

จำเลยฟ้องโจทก์กับพวก 10 คนว่าหมิ่นประมาท จำเลยเบิกความเท็จในคดีนั้น นายเขียวซึ่งถูกจำเลยฟ้องร่วมกับโจทก์ได้ฟ้องจำเลย แต่ศาลยกฟ้องเพราะฟ้องเคลือบคลุม ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) โจทก์ฟ้องคดีนี้อีกว่าจำเลยเบิกความเท็จดังกล่าวนั้น ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้พิจารณาพิพากษาใหม่จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยว่า สิทธินำคดีมาฟ้องของโจทก์ระงับสิ้นไปแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4) หรือไม่ ข้อเท็จจริงได้ความว่าในกรณีเดียวกันกับที่นายเขียว หุ่นทอง เคยเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1448/2517 ของศาลชั้นต้น ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) เพราะมิได้บรรยายการกระทำที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดพอสมควรที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ดังนี้จึงเห็นได้ว่าศาลยังมิได้วินิจฉัยในความผิดซึ่งได้ฟ้องตามคดีดังกล่าว เพียงแต่วินิจฉัยคำฟ้องว่าเคลือบคลุมเท่านั้น สิทธินำคดีมาฟ้องของโจทก์จึงยังไม่ระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)”

พิพากษายืน

Share