แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ขอออกโฉนดที่ดิน เจ้าพนักงานได้ทำเสร็จเรียบร้อย และประกาศแจกโฉนดให้ราษฎรแล้ว โจทก์มาขอรับ เซ็นชื่อรับ และเสียค่าธรรมเนียมต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว แต่พนักงานเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้มอบโฉนดให้โจทก์ไป ต่อมามีผู้มาขออายัดการออกโฉนด จำเลยจึงไม่แจกโฉนด และลบวันเดือนปีและลายเซ็นชื่อซึ่งจำเลยได้เซ็นในฐานะเจ้าพนักงานที่ดินเสีย เพราะเกรงว่าจะเป็นโฉนดที่สมบูรณ์ การที่จำเลยลบวันเดือนปีและลายเซ็นชื่อของตนเองเช่นนี้ ไม่เป็นการปลอมเอกสาร เพราะว่าเมื่อยังไม่ได้ส่งมอบโฉนดให้โจทก์ ถือไม่ได้ว่าที่ดินรายนี้ได้ออกโฉนดแล้ว และโฉนดรายนี้ยังเป็นเอกสารที่อยู่ในความยึดถือหรือในความรับผิดของพนักงานเจ้าหน้าที่ และถือได้ว่ายังอยู่ในระหว่างดำเนินการของเจ้าหน้าที่ เมื่อมีเหตุเปลี่ยนแปลง จำเลยซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการออกโฉนด ย่อมมีอำนาจที่จะแก้ไขเสียได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นพนักงานที่ดิน จำเลยได้ลบคำว่า ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๔ ซึ่งเป็นวันออกโฉนด และลบลายมือชื่อของจำเลยที่ลงไว้ในตำแหน่งเจ้าพนักงานที่ดิน ออกจากโฉนดที่ ๑๓๔๙๘ ซึ่งมีชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ จำเลยได้ส่งโฉนดดังกล่าวเพื่อเป็นพยานในศาล และจำเลยรับรองว่าโฉนดที่ดินดังกล่าวยังไม่เป็นโฉนดที่สมบูรณ์คงเป็นแบบพิมพ์ธรรมดา คำรับรองของจำเลยเป็นความเท็จ เพราะโฉนดนั้นสมบูรณ์แล้ว การกระทำของจำเลยเป็นการปลอมเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ จำเลยใช้เอกสารปลอมนั้นโดยอาศัยตำแหน่งหน้าที่ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗,๑๕๘,๑๖๑,๑๖๒,๒๖๔,๒๖๕ และ ๒๖๘
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โฉนดรายนี้ยังไม่ได้แจกให้โจทก์ ยังเป็นโฉนดที่อยู่ในระหว่างดำเนินการของเจ้าหน้าที่ การที่จำเลยจัดการลบวันเดือนปีและลบลายเซ็นชื่อของจำเลย ไม่ใช่เป็นเรื่องการปลอมเอกสารหรือใช้เอกสารปลอม และมิใช่จำเลยกระทำไปโดยเจตนาทุจริตคิดมิชอบแต่อย่างไร จำเลยยังไม่มีความผิด พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โฉนดของโจทก์ได้จัดทำเสร็จแล้ว โจทก์เซ็นรับเป็นหลักฐานไว้แล้ว ถือว่าโจทก์ได้รับแจกโฉนดแล้ว การที่จำเลยลบวันเดือนปีและลบลายมือชื่อของจำเลยในโฉนดนั้น เป็นการปลอมเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๖๘ อันเป็นกระทงหนัก ให้จำคุก ๑ ปี
ผู้ทำการแทนอธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์มีความเห็นแย้งว่า แม้ยังไม่เป็นโฉนดที่ได้ออกให้ผู้เป็นเจ้าของรับไป แต่ก็เป็นเอกสารตามความหมายในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑(๗)(๘) แล้ว จำเลยยังไม่ได้มอบเอกสารนั้นให้แก่เจ้าของที่ดิน หากจะได้ให้ผู้รับโฉนดเซ็นชื่อรับไว้พร้อมแล้วก็เป็นแต่การตระเตรียมการล่วงหน้า การรับจริงยังไม่มี จำเลยเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งลงลายมือในโฉนดนั้นไดขีดฆ่าลายมือชื่อของตนเอง มิใช่เป็นการปลอมเอกสารของใครอื่น ไม่เป็นปลอมเอกสารควรพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาว่าไม่เป็นความผิด
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยให้หนักกว่าที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษ
ศาลฎีกาตรวจสำนวนฟังแถลงการณ์ทนายโจทก์ทนายจำเลยแล้ว เห็นว่า ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗,๑๕๘ นั้น ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกเสีย โจทก์มิได้ฎีกาคัดค้านข้อหาดังกล่าวนี้จึงยุติ คงมีปัญหาแต่ว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๖๑,๑๖๒(๔) ,๒๖๖(๑) และ ๒๖๘ หรือไม่
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โฉนดที่ ๑๓๔๙๘ ที่โจทก์ขอออกโฉนดสำหรับที่ดินของโจทก์นั้นเจ้าพนักงานได้ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ประกาศแจกโฉนดให้โจทก์แล้ว โจทก์มาขอรับเซ็นชื่อรับและเสียค่าธรรมเนียมแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้มอบโฉนดให้โจทก์ไป ต่อมาโจทก์ถูกฟ้องขับไล่ให้ออกจากที่ดินแปลงที่ขอออกโฉนดนี้ โจทก์อ้างโฉนดนี้เป็นพยาน ศาลเรียกโฉนดจากจำเลย จำเลยได้ลบ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๔ และลายเซ็นชื่อของจำเลยที่เซ็นไว้ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานที่ดินในโฉนดนั้นเสีย แล้วมีหนังสือนำส่งไปศาล แจ้งต่อศาลว่า โฉนดที่ดินรายนี้ยังไม่เป็นโฉนดที่สมบูรณ์ คงเป็นแบบพิมพ์ธรรมดา ซึ่งยังอยู่ในระหว่างดำเนินการของเจ้าหน้าที่ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ดังนี้ ปัญหามีว่า จำเลยจะมีความผิดฐานปลอมเอกสารหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อยังไม่ได้มอบโฉนดให้โจทก์ ถือไม่ได้ว่าที่ดินรายนี้ได้ออกโฉนดแล้ว และโฉนดรายนี้ยังเป็นเอกสารที่อยู่ในความยึดถือหรือในความรับผิดชอบของพนักงานเจ้าหน้าที่ และถือได้ว่ายังอยู่ในระหว่างดำเนินการของเจ้าหน้าที่ เมื่อมีเหตุเปลี่ยนแปลงจำเลยซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการออกโฉนด ย่อมมีอำนาจที่จะแก้ไขเสียได้ เช่นคดีนี้มีผู้ขออายัดการออกโฉนด จำเลยย่อมมีอำนาจไม่แจกโฉนด เมื่อโจทก์ขออ้างโฉนดไปยังศาล จำเลยเกรงว่าจะเป็นโฉนดที่สมบูรณ์ จำเลยจึงลบวันเดือนปีและขื่อของตนเสีย เพื่อให้เห็นว่าเอกสารนี้ยังไม่เป็นโฉนด การกระทำของจำเลยไม่เป็นการปลอมเอกสารดังที่โจทก์ฟ้อง ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดฐานปลอมเอกสาร ศาลฎีกาไม่เห็นด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น ฎีกาโจทก์ไม่จำต้องวินิจฉัย
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์ และยกฎีกาโจทก์.