แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในชั้นฎีกา ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีฟ้องขับไล่ออกจากห้องเช่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ไม่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง จึงไม่ได้รับรองให้ เมื่อคดีมาถึงศาลฎีกา ๆ เห็นว่าเป็นข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกาตาม ป.วิ.แพ่ง ม.224, 247, 248 ก็ไม่รับวินิจฉัยให้
คดีฟ้องขับไล่ออกจากที่เช่า และเรียกค่าเสียหายไม่เกิน 5,000 บาท ต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริง ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.248 และคดีฟ้องขับไล่ออกจาก อสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าในขณะยื่นฟ้องไม่เกินเดือนละ 2,000 บาท ก็ต้องห้ามอุทธรณ์ฎีกาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.แพ่ง ม.224, 247 , การที่จะให้ศาลวินิจฉัยว่าการเช่ามีเจตนาเพื่อการค้นหรือเพื่อการอยู่อาศัย เป็นปัญหาข้อเท็จจริง.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าห้องของโจทก์เพื่อประโยชน์ในการค้า ค่าเช่เดือนละ ๒๐ บาท โจทก์ได้บอกเลิกการเช่ากับจำเลย ๆ เพิกเฉยและขาดส่งค่าเช่า ทำให้โจทก์ขาดประโยชน์ที่ควรได้เดือนละ ๑๕๐ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะออกจากห้อง
จำเลยให้การว่า จำเลยเช่าห้องเพื่ออยู่อาศัย ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ โจทก์ไม่เคยบอกเลิกการเช่า และไม่ผิดนัดชำระค่าเช่า
ศาลชั้นต้นพิพากษาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเช่าห้องเพื่ออยู่อาศัย ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่าฯ ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ และขอให้ศาลชั้นต้นรับรองให้อุทธรณ์ข้อเท็จจริง แต่ศาลชั้นต้นเห็นว่า ห้องพิพาทเป็นเคหะอันจะได้รับความคุ้มตรงตามกฎหมาย หรือ ไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมายจึงไม่ได้รับรอง
โจทก์ฎีกาและขอให้ศาลชั้นต้นรับรองให้ฎีกาข้อเท็จจริงศษลชั้นต้นไม่รับรอง โดยเห็นว่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ไม่ต้องห้ามฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้เป็นคดีฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่เช่า โจทก์เรียกค่าเสียหายเดือนละ ๑๕๐ บาท ด้วย เป็นคดีมีทุนทรัพย์ต่ำกว่า ๕,๐๐๐ บาท ต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.แพ่ง ม. ๒๔๘ และถ้าจะถือว่าเป็นคดีเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็เป็นคดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากอสังหาริมทรัพย์?อันมีค่าเช่า ในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละ ๒,๐๐๐ บาท ต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.แพ่ง ม. ๒๒๔, ๒๔๗ ส่วนฎีกาของโจทก์ที่อ้างว่าเป็นข้อกฎหมายก็เป็นการเถียงว่าการเช่ามีเจตนาเพื่อการค้าหรือเพื่อการอยู่อาศัย ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องฎีกา ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.๒๔๘ ศาลฎีการับวินิจฉัยให้ไม่ได้.