แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายเป็นคนมุทะลุดุร้ายเคยทุบตีรังแกจำเลยเสมอ ตอนหัวค่ำของวันเกิดเหตุผู้ตายเอาไม้คานตีจำเลย โดยจำเลยไม่ได้ต่อสู้มีรอยฟกช้ำหลายแห่ง จำเลยวิ่งหนีไป ผู้ตายวิ่งตามไปขู่ว่าไม่กลับจะต้องตายจำเลยกลัวก็ยอมกลับ ราว 2 ทุ่มผู้ตายเอามีดมาลับและพูดกับจำเลยว่ามึงมองดูฟ้าเสียเถอะต่อไปมึงจะไม่ได้ดูแล้ว ลับมีดแล้วผู้ตายก็เข้าไปนอน ราว 2 ยามบุตรคนเล็กร้องจำเลยกลัวและผู้ตายก็ตื่นจำเลยอุ้มให้บุตรกินนม ขณะนั้นผู้ตายล้วงเอามีดออกจากใต้ที่นอน จำเลยจึงวางบุตรลงแล้วเข้าแย่งมีดจากผู้ตาย เมื่อแย่งได้ก็ใช้ฟันผู้ตายหลายทีจนผู้ตายเงียบไป ผู้ตายถูกฟันมีแผล 8 แห่งและมีแผลที่สันหลังด้วย.เห็นได้ว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายมากมายจนไม่มีโอกาสที่จะทำอะไรจำเลย หรือจำเลยมีทางที่จะหลีกเลี่ยงไปให้พ้นอันตรายได้ก็หาหลีกหนีไปไม่และทั้งๆ ที่ผู้ตายไม่มีอาวุธอะไรจะทำร้ายจำเลยๆ ก็ยังฟันผู้ตายซ้ำเติมอีกโดยไม่ยับยั้งใจ ฟันเพื่อให้ผู้ตายตายเลยเช่นนี้ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนา จำเลยให้การปฏิเสธ
ข้อเท็จจริงได้ความว่านายดีผู้ตายและจำเลยเป็นสามีภรรยากันมาประมาณ 5 ปีเศษ แต่ไม่ได้จดทะเบียนตามกฎหมาย เกิดบุตรด้วยกัน2 คน ผู้ตายเป็นคนมุทะลุดุร้าย เคยทุบตีรังแกจำเลยเสมอ ตอนหัวค่ำของวันเกิดเหตุผู้ตายเอาไม้คานตีจำเลยโดยจำเลยไม่ต่อสู้มีรอยฟกซ้ำหลายแห่ง นายโสมผู้ใหญ่บ้านมาห้ามจำเลยวิ่งหนีไปแล้วผู้ตายไปตามขู่ให้กลับ ถ้าไม่กลับจะต้องตาย จำเลยกลัวก็ยอมกลับต่อมาราว 2 ทุ่มผู้ตายเอามีดมาลับแล้วพูดกับจำเลยว่ามึงมองดูฟ้าเสียเถอะ ต่อไปมึงจะไม่ได้ดูแล้ว ลับมีดแล้วผู้ตายก็เข้านอนโดยเอามีดซุกไว้ใต้ที่นอน ต่อมาจำเลยกับบุตรก็เข้านอนที่ห้องเดียวกับผู้ตาย พอเวลาราว 2 ยาม บุตรคนเล็กร้องขึ้นจำเลยและผู้ตายก็ตื่น จำเลยอุ้มให้บุตรกินนม ขณะนั้นเห็นผู้ตายล้วงเอามีดออกจากใต้ที่นอน จำเลยเห็นดังนั้นจึงวางบุตรลงแล้วเข้าแย่งมีดจากผู้ตาย เมื่อแย่งได้ก็ใช้มีดฟันผู้ตายหลายทีจนเห็นผู้ตายเงียบไป จึงลงจากเรือนมาเรียกนายโสมผู้ใหญ่บ้านซึ่งเรือนอยู่ห่างกันวาเศษ ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังโดยตลอด นายโสมไปดูเห็นผู้ตายถูกฟันนอนอยู่ ถามไม่ค่อยได้ความอยู่ได้ราว 1 ชม. ผู้ตายก็ขาดใจตาย ปรากฏตามใบชัณสูตรว่าผู้ตายถูกฟันรวม 8 แห่ง
ศาลชั้นต้นเห็นว่าแม้จำเลยจะฟันผู้ตายโดยไม่ยับยั้งผู้ตายมีบาดแผลถึง 8 แห่งก็เป็นเรื่องน่าเห็นใจแล้ว เพราะจำเลยเป็นหญิงถ้าไม่กระทำดังนั้นผู้ตายก็อาจจะกลับทำร้ายจำเลยได้อีก การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุจึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัว แต่เมื่อพิจารณาถึงบาดแผลผู้ตายซึ่งมีถึง 8 แห่งและมีบาดแผลที่สันหลังด้วยแล้วเห็นได้ว่าจำเลยได้ทำร้ายผู้ตายมากมายจนไม่มีโอกาสที่จะทำอะไรจำเลยหรือจำเลยมีทางที่จะหลีกเลี่ยงไปให้พ้นอันตรายได้ก็หาหลีกเลี่ยงไปไม่ และทั้ง ๆ ที่ผู้ตายไม่มีอาวุธอะไรจะทำร้ายจำเลย จำเลยก็ยังฟันผู้ตายซ้ำเติมอีกโดยไม่ยับยั้งใจฟันเพื่อให้ผู้ตายตายเลยทีเดียวเช่นนี้ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยเกินสมควรแก่เหตุไป จึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 249 ประกอบด้วย มาตรา 53ให้วางโทษจำคุกจำเลย 3 ปี ลดรับสารภาพทั้งรูปคดีก็เป็นเรื่องน่าเห็นใจจำเลยตามมาตรา 59 กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือน ริบมีดของกลาง
จำเลยฝ่ายเดียวฎีกาว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
ศาลฎีกาตรวจปรึกษาแล้วเห็นพ้องด้วยกับศาลอุทธรณ์ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุไปจริง ดังเหตุผลที่ศาลอุทธรณ์ได้ยกขึ้นวินิจฉัยไว้นั้นชอบแล้ว แต่ศาลฎีกาเห็นต่อไปว่าจำเลยนี้เป็นหญิงยังมีบุตรเล็กอยู่และไม่ปรากฏว่ารับโทษมาก่อน รูปคดีสมควรรอการลงโทษจำเลยไว้
จึงพิพากษาแก้เฉพาะว่าให้รอการลงโทษจำเลยที่ศาลอุทธรณ์ลงแก่จำเลยนั้นไว้ตามกฎหมายอาญา มาตรา 41 มีกำหนด 3 ปีนอกจากที่แก้นี้คงยืน