แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำพิพากษาคดีอาญาที่พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ประมาททำให้ ส.บุตรโจทก์ถึงแก่ความตาย ไม่ผูกพันจำเลยที่ 2 ในคดีแพ่งที่โจทก์ฟ้องให้ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในฐานะนายจ้างเมื่อโจทก์นำสืบพยานอื่นรับฟังไม่ได้สมคำฟ้อง จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างหรือตัวแทนของจำเลยที่ 2เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2527 จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์บรรทุกสิบล้อในทางการที่จ้างในกิจการของจำเลยที่ 2 โดยประมาทเกี่ยวและทับรถจักรยานยนต์ของนายสุชิน ทับห่วง บุตรโจทก์ เป็นเหตุให้นายสุชินถึงแก่ความตาย ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายรวมเป็นเงิน 437,780 บาทขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระเงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้เช่ารถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุจากจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 มิได้ประมาทและมิได้ขับรถยนต์บรรทุกชนบุตรโจทก์ โจทก์มิใช่มารดาของนายสุชิน โจทก์ไม่ได้รับความเสียหายมากตามฟ้อง และโจทก์ไม่เคยทวงถามจำเลยที่ 2 ก่อนฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าเสียหาย225,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธ โจทก์จึงมีหน้าที่นำสืบให้ได้ความตามฟ้องในส่วนของจำเลยที่ 2 ว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างขับรถในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 และขับรถโดยประมาทเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายขับ เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายขับได้รับความเสียหายและผู้ตายถึงแก่ความตาย ศาลฎีกาวินิจฉัยพยานโจทก์ว่าไม่มีผู้ใดรู้เห็นเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุแล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า แม้โจทก์จะอ้างสำเนาคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 1 และสำเนาคำพิพากษาศาลอาญาซึ่งจำเลยที่ 1 ถูกศาลอาญาพิพากษาลงโทษจำคุกไปแล้วมาเป็นพยานคดีนี้ แต่ข้อเท็จจริงในคดีอาญาดังกล่าวก็หาได้มีผลผูกพันจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกไม่ เมื่อจำเลยที่ 2 นำสืบว่า จำเลยที่ 1 ไม่ใช่ลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ไม่ได้ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้ตายและไม่ได้ขับรถโดยประมาทและโจทก์ไม่มีพยานมาสืบให้ได้ความสมฟ้อง จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
พิพากษายืน.