คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1956/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เคยฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คที่จำเลยออกให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้ค่าซื้อข้าวสารแต่เรียกเก็บเงินตามเช็คไม่ได้ระหว่างพิจารณาคดีดังกล่าวจำเลยได้ออกเช็คพิพาทกับเช็คฉบับอื่นแทนเช็คที่ฟ้องร้องกันโจทก์จึงถอนฟ้องเช็คพิพาทที่จำเลยออกให้โจทก์ถือได้ว่ามีมูลหนี้มาจากจำเลยซื้อข้าวสารของโจทก์นั่นเองการออกเช็คพิพาทของจำเลยคดีนี้จึงเป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายเมื่อโจทก์นำเช็คพิพาทซึ่งถึงกำหนดไปเรียกเก็บเงินธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินเนื่องจากสั่งให้ระงับการจ่ายเงินการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อประมาณต้นเงินมิถุนายน 2535จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ค่าสินค้าอันเป็นการชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายเมื่อเช็คทั้ง 3 ฉบับถึงกำหนดโจทก์นำไปเรียกเก็บเงินธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินทั้ง 3 ฉบับการกระทำของจำเลยเป็นการออกเช็คโดยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค หรือให้ใช้เงินมีจำนวนเงินสูงกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินตามเช็คจำนวนเงินเหลือไม่เพียงพอที่จะใช้เงินตามเช็คนั้น หรือห้ามธนาคารมิให้ใช้เงินตามเช็คโดยเจตนาทุจริตเหตุเกิดที่แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534มาตรา 4 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษจำคุกกระทงละ 3 เดือน เรียงกระทงลงโทษรวมจำคุกจำเลยไว้มีกำหนด 9 เดือน
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำคุกกระทงแรกและกระทงที่สามกระทงลง 1 เดือน กระทงที่สอง จำคุก 2 เดือน เรียกกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 รวมจำคุก 4 เดือน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้น อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยเคยติดต่อซื้อข้าวสารจากโจทก์มาเป็นเวลาหลายปี จำเลยได้ชำระหนี้ค่าข้าวสารโดยออกเช็คลงวันที่ล่วงหน้า 8 ถึง 9 ฉบับ ภายหลังจำเลยจึงให้ธนาคารตามเช็คระงับการจ่ายเงิน โจทก์จึงฟ้องจำเลยที่ศาลแขวงพระนครใต้ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534ตามคำฟ้องคดีหมายเลขดำที่ 427/2535 และคดีหมายเลขดำที่ 716/2535ระหว่างพิจารณาคดีดังกล่าว จำเลยได้ตกลงผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์โดยออกเช็คธนาคารกสิกรไทย สาขาซอยจารุรัตน์ หลายฉบับรวมทั้งเช็คพิพาทด้วยเพื่อแทนเช็คที่ฟ้องร้องกัน และโจทก์ได้ถอนฟ้องจำเลย เช็คพิพาทที่ออกให้โจทก์ถือได้ว่ามีมูลหนี้มาจากจำเลยซื้อข้าวสารของโจทก์นั่นเอง การออกเช็คพิพาทของจำเลยจึงเป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย เมื่อโจทก์นำเช็คพิพาทซึ่งถึงกำหนดแล้วไปขึ้นเงิน โดยให้เหตุผลว่าโปรดติดต่อผู้สั่งจ่ายและจำเลยสั่งให้ระงับการจ่ายเงิน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4
พิพากษายืน

Share