แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้ว มีสิทธิได้รับมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1629(1)
ศาลอุทธรณ์มีอำนาจเพียงแต่พิจารณาฟ้องอุทธรณ์ คำแก้อุทธรณ์ เอกสารและพยานหลักฐานในสำนวน ไม่มีอำนาจที่จะไปวินิจฉัยชี้ขาดในประเด็น ที่ไม่มีฝ่ายใดยกขึ้นเป็นข้ออุทธรณ์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นบุตรนายเชื่อม พัวพันธ์ นางเสริม ศรีกล่ำ ซึ่งอยู่กินเป็นสามีภรรยากันตั้งแต่ พ.ศ. 2485 จนนายเชื่อมถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. 2509 แต่มิได้จดทะเบียนสมรส โจทก์เป็นบุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้รับรองแล้ว
บิดาโจทก์มีมรดกเป็นที่ดิน 1 แปลง โฉนดที่ 836 เนื้อที่ 10 ไร่ 60 ตารางวา ราคา 30,000 บาท อยู่ในความครอบครองของจำเลยซึ่งเป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของบิดาโจทก์ โจทก์ให้ทนายความมีหนังสือแจ้งให้จำเลยแบ่งที่ดินให้โจทก์ จำเลยไม่ยอมรับหนังสือและไม่ยอมแบ่งให้ ขอให้พิพากษาให้จำเลยแบ่งมรดกที่ดินโฉนดที่ 836ตามส่วนที่โจทก์ควรได้คือ 1 ไร่ 107 ตารางวาครึ่ง หรือให้จำเลยลงชื่อโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมในโฉนดที่ดินดังกล่าว ถ้าจำเลยไม่สามารถจัดการตามคำขอในข้อ 1 ก็ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ขายทอดตลาดที่ดิน แล้วแบ่งเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดให้โจทก์ตามส่วนที่โจทก์จะพึงได้รับ
จำเลยให้การว่า สามีจำเลยไม่เคยได้เสียกับนางเสริม ศรีกล่ำสามีจำเลยมิได้แจ้งทะเบียนคนเกิดว่าโจทก์เป็นบุตร มิได้ยอมให้ใช้นามสกุล ไม่เคยอุปการะเลี้ยงดู ไม่เคยให้การศึกษา ไม่เคยแสดงให้ปรากฏแก่คนทั่วไปว่าโจทก์เป็นบุตร ที่พิพาทไม่ใช่มรดก แต่เป็นสินส่วนตัวของจำเลย จำเลยนำไปเป็นประกันเงินกู้ 60,000 บาท นำมาทำศพสามีจำเลย โจทก์ไม่มีส่วนแบ่งในที่พิพาท ส่วนแบ่งตามฟ้องคำนวณไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ที่พิพาทราคาไร่ละ 40,000 บาท
คู่ความตกลงกันตีราคาที่พิพาทไร่ละ 8,000 บาท ที่ดินที่โจทก์ฟ้องราคา 10,140 บาท
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแบ่งที่ดินโฉนดที่ 836 ให้โจทก์ 3 งาน 80 เศษห้าส่วนแปด ตารางวา ถ้าจำเลยไม่สามารถจัดการดังกล่าวได้ให้ขายทอดตลาดที่ดินโฉนดที่ 836 ในกรณีเช่นนี้ให้หักค่าใช้จ่ายในการทำศพเจ้ามรดกออก 7,000 บาทก่อน ส่วนที่เหลือแบ่งให้โจทก์ตามส่วน
จำเลยอุทธรณ์ว่า เจ้ามรดกไม่ได้เป็นผู้แจ้งทะเบียนคนเกิดว่าโจทก์เป็นบุตร ไม่ได้รับรองว่าโจทก์เป็นบุตร จึงฟังไม่ได้ว่าโจทก์เป็นบุตรของเจ้ามรดก ซึ่งจะมีสิทธิได้รับมรดกรายพิพาท
โจทก์แก้อุทธรณ์ และกล่าวในคำแก้อุทธรณ์ว่า ที่ศาลแพ่งพิพากษาให้โจทก์ได้รับส่วนแบ่งที่ดินโฉนดที่ 836 จำนวนเนื้อที่ 3 งาน 80 เศษห้าส่วนแปด ตารางวา นั้น โจทก์เห็นว่าชอบแล้ว
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่า ให้จำเลยแบ่งที่ดินโฉนดที่ 836 ให้โจทก์ 1 ไร่ 107 ตารางวาครึ่ง หรือให้จำเลยยอมให้โจทก์ลงชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมในโฉนดเท่าจำนวนที่โจทก์มีสิทธิ ถ้าไม่สามารถจัดการดังกล่าวได้ ให้ขายทอดตลาดทรัพย์พิพาททั้งแปลงเอาเงินแบ่งให้โจทก์ตามส่วน ส่วนค่าทำศพเจ้ามรดกไม่ว่ากรณีแบ่งที่ดินหรือให้ลงชื่อร่วมหรือขายทอดตลาดให้โจทก์ชำระ 1 ใน 4 ตามส่วนที่ได้รับมรดก แต่มีความเห็นแย้ง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฟังได้ว่าโจทก์เป็นบุตรนอกกฎหมายที่เจ้ามรดกรับรองแล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627 จึงถือว่าโจทก์เป็นผู้สืบสันดานเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายมีสิทธิได้รับมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1629(1)
ส่วนปัญหาว่า ศาลอุทธรณ์มีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นที่ไม่มีฝ่ายใดยกขึ้นเป็นข้ออุทธรณ์ แล้วพิพากษาให้โจทก์ได้รับส่วนแบ่งมรดกเพิ่มขึ้น และจ่ายค่าทำศพเพิ่มขึ้นได้หรือไม่นั้นศาลฎีกาเห็นว่าศาลอุทธรณ์มีอำนาจที่จะวินิจฉัยคดี โดยเพียงแต่พิจารณาฟ้องอุทธรณ์ คำแก้อุทธรณ์ เอกสาร และพยานหลักฐานในสำนวนคดีนี้ เมื่อจำเลยอุทธรณ์เฉพาะปัญหาว่าโจทก์มิใช่บุตรของเจ้ามรดกศาลอุทธรณ์จึงไม่มีอำนาจที่จะไปวินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นที่ไม่มีฝ่ายใดยกขึ้นเป็นข้ออุทธรณ์ และไม่ใช่ข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
พิพากษาแก้ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น