คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1950/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ผู้ตายซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านจะมีอำนาจว่ากล่าวสั่งสอนลูกบ้านของคนได้ตาม พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 มาตรา 27 ก็ตามเมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยฆ่าผู้ตายขณะจับกุมตามหน้าที่ แต่ได้ความว่าจำเลยฆ่าเพราะเหตุผู้ตายไปว่ากล่าวสั่งสอนตามหน้าที่ดังนี้ ข้อเท็จจริงที่ได้ความไม่ตรงกับที่โจทก์ฟ้อง ลงโทษจำเลยตามมาตรา 250 (3) ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงนายแม้นผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติราชการตามหน้าที่จะเข้าจับกุมจำเลยในข้อหาเมาสุราอาละวาดท้าทายถึงแก่ความตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๒๕๐,๒๔๙,๔๘
นางพวงภริยาผู้ตายขอเป็นโจทก์ร่วม
จำเลยต่อสู้ว่าป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุครั้นสืบพยานเสร็จแล้วขอถอนคำให้การเดิม ขอรับสารภาพว่าได้กระทำผิดจริง ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีโจทก์ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยฆ่าเจ้าพนักงานผู้ประจำหน้าที่หรือฆ่าเพราะเหตุกระทำตามหน้าที่อย่างใด คงผิดตามมาตรา ๒๔๙ เท่านั้นพิพากษาจำคุก ๑๘ ปี ลดโทษตามมาตรา ๕๙ ลง ๑ ใน ๓ คงจำคุก ๑๒ ปี
อัยการและนางพวงโจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษตามมาตรา ๒๕๐(๒)
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าผู้ตายไปห้ามปรามในฐานะเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งเท่านั้น จะถือว่าผู้ตายถูกฆ่าตายในขณะปฏิบัติราชการตามหน้าที่ตามมาตรา ๒๕๐(๒) ไม่ได้พิพากษายืน
อัยการและนางพวงฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์ฟ้องว่าจำเลยฆ่าผู้ตายขณะจะจับกุม แต่ข้อเท็จจริงซึ่งศาลอุทธรณ์และศาลชั้นต้นฟังต้องกันว่าผู้ตายหาได้ไปทำการจับกุมดังฟ้องไม่ เป็นแต่ได้ไปว่ากล่าวห้ามปรามเท่านั้น ข้อเท็จจริงที่ได้ความจึงไม่ตรงกับที่โจทก์อ้างมาว่าจำเลยกระทำผิดเพราะเหตุนั้น จริงอยู่ผู้ตายเป็นผู้ใหญ่บ้านมีอำนาจว่ากล่าวสั่งสอนลูกบ้านได้ตามพระราชบัญญัติปกครองท้องที่ พ.ศ.๒๔๕๗ มาตรา ๒๗ แต่โจทก์หาได้ฟ้องว่าจำเลยฆ่าผู้ใหญ่บ้านเพราะเหตุผู้ใหญ่บ้านไปว่ากล่าวสั่งสอนจำเลยในขณะกระทำตามหน้าที่ไม่
พิพากษายืน

Share