คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1935/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

แม้โจทก์บรรยายฟ้องว่าผู้เสียหายต้องป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวัน แต่ผลการตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์ท้ายฟ้องระบุว่าบาดแผลของผู้เสียหายถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อนจะหายภายใน 1 เดือน ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าผู้เสียหายอาจรักษาตัวเพียง 5 วัน หรือ 10 วัน ก็หายเป็นปกติได้ ก็เป็นเพียงความเห็นของแพทย์ที่ทำไว้ขณะตรวจรักษาบาดแผลของผู้เสียหายเท่านั้นถือไม่ได้ว่าความเห็นดังกล่าวขัดกับคำบรรยายฟ้องของโจทก์ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม แม้ผลการตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์ท้ายฟ้องมิได้ระบุให้เห็นว่าผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297 อย่างไร และข้อที่อ้างว่าจะรักษาหายได้ภายใน 1 เดือนก็เป็นไปได้ว่าอาจรักษาหายได้ภายใน 5 หรือ 10 วันก็ตาม แต่เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายจนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายสาหัส ต้องป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวัน ซึ่งเข้าองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 แล้วดังนี้ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลย่อมฟังข้อเท็จจริงได้เช่นนั้นและลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 1 ปี แต่รอการลงโทษไว้ 2 ปี โจทก์อุทธรณ์ขอไม่ให้รอการลงโทษ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำคุก 6 เดือนโดยไม่รอการลงโทษ จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาว่าฟ้องโจทก์เป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากคำบรรยายฟ้องของโจทก์ขัดกันเอง กล่าวคือโจทก์บรรยายฟ้องว่าผู้เสียหายต้องป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวัน ส่วนผลการตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์ท้ายฟ้องซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้องระบุว่า บาดแผลของผู้เสียหายถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อนจะหายภายใน 1 เดือน ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าผู้เสียหายอาจรักษาตัวเพียง 5 วัน หรือ 10 วัน ก็หายเป็นปกติได้นั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่าตามรายงานความเห็นของแพทย์ที่ปรากฏในผลการตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์ท้ายฟ้องที่มีข้อความดังที่จำเลยฎีกานั้น เป็นเพียงความเห็นของแพทย์ที่ทำไว้ขณะตรวจรักษาบาดแผลของผู้เสียหายเท่านั้น ทั้งไม่อาจถือได้ว่าความเห็นดังกล่าวขัดกับคำบรรยายฟ้องของโจทก์ที่ว่าผู้เสียหายต้องป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวัน ฟ้องโจทก์จึงหาเป็นฟ้องที่เคลือบคลุมดังที่จำเลยฎีกาไม่
ที่จำเลยฎีกาอีกข้อหนึ่งว่า ตามผลการตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์ท้ายฟ้อง มิได้ระบุให้เห็นว่าผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 อย่างไร และในข้อที่อ้างว่าผู้เสียหายรักษาตัวหายได้ภายใน 1 เดือน ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อนก็เป็นไปได้ว่าผู้เสียหายอาจรักษาตัวหายได้ภายใน 5 หรือ 10 วันซึ่งจะแสดงว่าผู้เสียหายไม่ได้รับอันตรายสาหัสนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายจนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายสาหัสต้องป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวัน ซึ่งเข้าองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297 แล้ว เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลย่อมฟังข้อเท็จจริงได้เช่นนั้นและลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297 ได้ ฎีกาจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นเดียวกัน”
พิพากษายืน

Share