แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หากจำเลยมีความจำเป็นไม่อาจจะยื่นคำให้การได้ทันภายในกำหนดเวลาแปดวัน ก็ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาออกไปได้ โดยแสดงให้ศาลเห็นว่ากรณีมีพฤติการณ์พิเศษ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 และถึงแม้ระยะเวลาแปดวันจะผ่ายพ้นไปแล้ว แต่จำเลยหาได้ปฏิบัติเช่นนั้นไม่ กลับมายื่นคำร้องหลังจากพ้นกำหนดแปดวันแล้วโดยอ้างว่ามิได้มีเจตนาจงใจจะขาดนัดยื่นคำให้การ ซึ่งเป็นเหตุผลมี่จำเลยชอบที่จะอ้างหลังจากที่ศาลได้มีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแล้ว ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจาณาความแพ่ง มาตรา 199 ในชั้นนี้ยังไม่มีกรณีจะต้องพิจารณาถึงว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การโดยไม่จงใจหรือโดยมีเหตุอันสมควรหรือไม่ ศาลจึงสั่งรับคำให้การจำเลยไว้ไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามให้ร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ เนื่องจากผู้ใต้บังคับบัญชาของจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์
จำเลยทั้งสามยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นสั่งรับเฉพาะคำให้การของจำเลยที่ ๑ และที่ ๓ ไม่รับคำให้การของจำเลยที่ ๒ เพราะยื่นเมื่อพ้นกำหนดเวลาแล้ว
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๒ ฎีกา ขอให้อนุญาตให้จำเลยที่ ๒ ยื่นคำให้การ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ได้มีการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องเมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๒๑ จำเลยที่ ๒ จึงชอบที่จะต้องยื่นคำให้การภายในวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๒๑ หากจำเลยมีความจำเป็นไม่อาจจะยื่นคำให้การได้ทันภายในกำหนดเวลาดังกล่าวก็น่าจะร้องขอขยายระยะเวลาออกไปตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๓ได้เปิดโอกาสไว้ให้แล้ว โดยแสดงให้ศาลเห็นว่ากรณีของจำเลยที่ ๒ มีพฤติการณ์พิเศษที่สมควรได้รับการขยายระยะเวลายื่นคำให้การ ดังที่จำเลยที่ ๑ และที่ ๓ ได้ร้องขอและศาลชั้นต้นก็ได้อนุญาตให้ และถึงแม้ระยะเวลาแปดวันจะผ่านพ้นไปแล้ว จำเลยที่ ๒ ก็ยังอาจขอขยายระยะเวลาได้โดยแสดงให้ศาลเห็นว่าเป็นกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยทำให้จำเลยที่ ๒ ร้องขอขยายระยะเวลาก่อนครบกำหนดแปดวันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๗ วรรคหนึ่งไม่ได้ แต่จำเลยที่ ๒ ก็หาได้ปฏิบัติเช่นนั้นไม่ กลับมาอ้างในคำร้องลงวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๒๑ ว่าจำเลยมิได้มีเจตนาจงใจจะขาดนัดยื่นคำให้การ ซึ่งเป็นเหตุผลที่จำเลยชอบที่จะอ้างหลังจากที่ศาลได้มีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแล้ว ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๙๙ แต่ในชั้นนี้ยังไม่มีกรณีจะต้องพิจารณาถึงว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การโดยไม่จงใจหรือโดยมีเหตุอันสมควรหรือไม่คงมีปัญหาเพียงว่า ศาลจะสั่งรับคำให้การของจำเลยซึ่งนำมายื่นเมื่อพ้นระยะเวลาตามที่ มาตรา ๑๗๗ วรรคหนึ่ง กำหนดไว้ได้หรือไม่เท่านั้น และเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยนำคำให้การมายื่นเมื่อพ้นระยะเวลาโดยมิได้รับอนุญาตจากศาลให้ขยายระยะเวลานั้นออกไป ศาลก็จะสั่งรับคำให้การของจำเลยที่ ๒ ไว้ไม่ได้ฎีกาของจำเลยที่ ๒ ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.