คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1928/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นผู้ใหญ่บ้านพอทราบข่าวว่า ผู้ตายทำร้ายบุตร์จำเลย ก็พาพรรคพวกออกตามจับผู้ตาย แล้วพาตัวไปยิงทิ้ง โดยโทษะจริต ดังนี้จำเลยไม่มีผิดตามมาตรา 250 ข้อ 3. คงผิดตามมาตรา 249.

ย่อยาว

คดีได้ความว่า จำเลยที่ ๑ เป็นผู้ใหญ่บ้าน จำเลยอื่น ๆ เป็นลูกบ้าน มีคนมาแจ้งต่อจำเลยที่ ๑ ว่านายชม นายเชย ผู้ตายทั้งสองได้ทำร้ายบุตรชายของจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๑ ก็พาจำเลยอื่น ๆ ซึ่งเป็นลูกบ้านออกตามจับผู้ตายทั้งสองได้ แล้วพาเอาตัวผู้ตายทั้งสองไป โดยไม่ฟังคำคัดค้านของผู้ตายว่าจำเลยที่ ๑ ไม่มีอำนาจจับ เพราะเหตุเกิดขึ้นนอกท้องที่ของจำเลยที่ ๑ ๆ พาเอาผู้ตายไปยิงตายเสียระหว่างทางทั้งสองคน แล้วต่อสู้คดีว่ามีคนร้ายมาแย่งผู้ตาย ๆ ถูกกระสุนปืนของคนร้ายตาย
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันสำหรับตัวจำเลยที่ ๑ ว่ามีความผิดตามมาตรา ๒๕๐ ข้อ ๓ ให้ลงโทษประหารชีวิต
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยที่ ๑ มิได้มีจิตพยาบาทอาฆาฎผู้ตายมาแต่ก่อน พอรู้เรื่องว่าบุตรถูกทำร้ายก็พาพวกออกจับผู้ตายทั้งสอง และพาตัวไปยิงทิ้งเสีย โดยโทษะจริต ความผิดต้องด้วยมาตรา ๒๔๙ แต่เห็นว่าจำเลยที่ ๑ ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เป็นเครื่องมือในการกระทำผิดให้เป็นไปโดยความสะดวก ทั้งยกขึ้นเป็นเครื่องป้องกันกำบังตน ร้ายยิ่งกว่าคนร้ายธรรมดาสามัญ ความผิดของจำเลยที่ ๑ ไม่น้อยกว่าความฉกรรจ์ที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๕๐ การลงโทษประหารชีวิตจำเลยจึงสมควรแล้ว
พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา ๒๔๙ แต่ที่ให้ลงโทษประหารชีวิตคงยืน.

Share