แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ที่ปล่อยกระบือเข้าไปในสวนของผู้อื่นทำให้ต้นผลไม้เสียหายและฝ่ายเจ้าของสวนจับกระบือนั้นไว้ ไม่ถือว่ากระบือนั้นเป็นทรัพย์อันต้องยึดหรืออายัติไว้ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 290 แม้เจ้าของกระบือนั้นไปเอากระบือคืนมาก็ไม่ผิดมาตรานี้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยปล่อยกระบือเข้าไปในสวนของ ร.ต.อ.เชาว์ ทำให้ต้นผลไม้เสียหาย และจำเลยบังอาจมาลักกระบืออันต้องยึดนั้นไปจากความควบคุมของ ร.ต.อ.เชาว์ และพลฯ จันแก้ว ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๙๐,๓๔๐.
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยมีผิดตามมาตรา ๓๔๐ ให้ปรับ ๕๐ บาท กระบือของกลางยังไม่ได้ส่งไปให้เจ้าพนักงานยึดเป็นของกลาง และพยานโจทก์ก็ไม่ยืนยันแน่ว่าจำเลยแก้เอากระบือไป ข้อหาฐานลักทรัพย์อันต้องยึดให้ยกเสีย
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า พลฯจันแก้วจับกระบือไว้ในฐานคนรับใช้ ไม่ใช่ในฐานะเจ้าพนักงานตำรวจ พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยกับศาลอุทธรณ์ว่า ทรัพย์อันต้องยึดหรืออายัติไว้ตามกฎหมายตามมาตรา ๒๙๐ นั้น ต้องหมายถึงทรัพย์ที่เจ้าพนักงานได้ยึดหรืออายัติไว้ตามกฎหมาย กระบือรายนี้เพียงแต่ฝ่ายเจ้าทรัพย์ยึดไว้ เจ้าพนักงานมิได้ยึดหรืออายัติไว้ ป.ม.แพ่งฯ มาตรา ๔๕๒ เป็นเรื่องให้อำนาจเจ้าของที่ดินยึดสัตว์ไว้เป็นประกันค่าเสียหาย ไม่เกี่ยวกับ ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๙๐
พิพากษายืน.