คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1915/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดที่ได้ราคาต่ำเกินสมควรนอกจากจะต้องยื่นคำร้องต่อศาลไม่ช้ากว่า 15 วัน นับแต่วันที่ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างตาม ป.วิ.พ. มาตรา 296 วรรคสาม แล้ว ยังจะต้องอ้างด้วยว่าการขายทอดตลาดในราคาที่ต่ำเกินสมควรนั้นเกิดจากการคบคิดกันฉ้อฉลในระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องในการเข้าสู้ราคาหรือความไม่สุจริตหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของเจ้าพนักงานบังคับคดีในการปฏิบัติหน้าที่ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 309 ทวิ วรรคสอง
คำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดของจำเลยอ้างแต่เพียงว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดสิทธิการเช่าโทรศัพท์ของจำเลยไปในราคาที่ต่ำเกินสมควร จึงไม่ต้องด้วยกรณีที่จะให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้

ย่อยาว

คดีทั้งหกสิบสี่สำนวนนี้ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งให้รวมพิจารณากับคดีอื่นอีกสามสำนวน ซึ่งศาลแรงงานกลางได้จำหน่ายคดีไปแล้ว โดยให้เรียกโจทก์ทั้งหกสิบสี่สำนวนเป็นโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 57 และโจทก์ที่ 61 ถึงที่ 67 ตามลำดับ
คดีสืบเนื่องมาจากศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 57 และโจทก์ที่ 61 ถึงที่ 67 ตามจำนวนเงินที่โจทก์แต่ละคนได้รับ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี จากต้นเงินของโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 57 แต่ละคนนับแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2542 และจากต้นเงินของโจทก์ที่ 61 ถึงที่ 67 แต่ละคนนับแต่วันที่ 10 พฤษภาคม 2542 เป้นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ แต่จำเลยไม่ชำระ โจทก์ดังกล่าวจึงขอหมายบังคับคดีและนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดสิทธิการเช่าโทรศัพท์หมายเลข 4340330 ถึง 4340340 หมายเลข 4340345 ถึง 4340355 หมายเลข 8808000 หมายเลข 8808888 และหมายเลข 8808080 รวม 25 หมายเลข ซึ่งเป็นของจำเลยขายทอดตลาดไปเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2543 ได้เงินทั้งสิ้น 110,000 บาท
วันที่ 10 มีนาคม 2543 จำเลยยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดสิทธิการเช่าโทรศัพท์ของจำเลยเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2543
ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งว่า ตามคำร้องของจำเลยได้ความว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดสิทธิการเช่าโทรศัพท์ของจำเลยเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2543 เวลา 9 นาฬิกา โดยผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยอยู่ด้วย จึงฟังได้ว่าจำเลยรู้เห็นการขายทอดตลาดดังกล่าวแล้วตั้งแต่วันขายทอดตลาด การยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดจะต้องยื่นไม่ช้ากว่า 8 วัน นับแต่วันที่ทราบการฝ่าฝืนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง จำเลยยื่นคำร้องในวันที่ 10 มีนาคม 2543 จึงล่วงเลยกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ให้ยกคำร้อง
จำเลยทั้งหกสิบสี่สำนวนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า แม้จำเลยจะยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดไม่ช้ากว่า 15 วัน นับแต่วันที่ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันป็นมูลแห่งข้ออ้างซึ่งชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสาม ก็ตาม แต่จำเลยก็อ้างมูลแห่งการขอให้เพิกถอนว่าราคาที่ได้จากการขายทอดตลาดต่ำเกินสมควร ซึ่งการขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดกรณีดังกล่าวจะต้องปรากฎด้วยว่าการขายทอดตลาดในราคาที่ต่ำเกินสมควรนั้นเกิดจากการคบคิดกันฉ้อฉลในระหว่างผู้เกี่ยวข้องในการเข้าสู้ราคา หรือความไม่สุจริต หรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของเจ้าพนักงานบังคับคดีในการปฏิบัติหน้าที่ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 309 ทวิ วรรคสอง แต่ตามคำร้องของจำเลยคงได้ความแต่เพียงว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดสิทธิการเช่าโทรศัพท์ของจำเลยไปในราคาที่ต่ำเกินสมควร โดยมิได้อ้างว่าการขายทอดตลาดในราคาต่ำเกินสมควรนั้นเกิดจากการคบคิดกันฉ้อฉลในระหว่างผู้เกี่ยวข้องในการเข้าสู้ราคา หรือความไม่สุจริตหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของเจ้าพนักงานบังคับคดีแต่อย่างใด คำร้องของจำเลยไม่ต้องด้วยกรณีที่จะให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้ ที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล อุทธรณ์ของจำเลยทั้หกสิบสี่สำนวนฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share