แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ปกติเมื่อกรรมการผู้ใดทำให้บริษัทเสียหายบริษัทย่อมเป็นผู้ฟ้องเรียกให้กรรมการผู้นั้นชดใช้ค่าเสียหายแก่บริษัทส่วนผู้ถือหุ้นจะเป็นผู้ฟ้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1169วรรคแรกต้องเป็นการฟ้องแทนหรือฟ้องเพื่อประโยชน์ของบริษัทเฉพาะกรณีที่บริษัทไม่ยอมฟ้องและเป็นการฟ้องเพื่อเรียกร้องเอาสินไหมทดแทนเท่านั้น การที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นคนหนึ่งของบริษัท ก. นำหนี้ค่าสินไหมทดแทนซึ่งจำเลยในฐานะกรรมการบริษัท ก. ที่ยักยอกเงินของบริษัท ก. และต้องรับผิดต่อบริษัท ก. มาฟ้องจำเลยขอให้ล้มละลายหาใช่เป็นกรณีการฟ้องเพื่อเรียกร้องเอาสินไหมทดแทนจากจำเลยแทนหรือฟ้องเพื่อประโยชน์ของบริษัท ก. ไม่โจทก์ซึ่งเป็นเพียงผู้ถือหุ้นของบริษัท ก. จึงมิได้อยู่ในฐานะเจ้าหนี้ของจำเลยที่จะฟ้องจำเลยให้ล้มละลายตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483มาตรา9ได้
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ จำเลย กับพวก ร่วม หุ้น ลงทุน ค้า ที่ดินและ ได้ ตั้ง บริษัท เกษตรนิมิต จำกัด ขึ้น เมื่อ วันที่ 28 เมษายน 2533 โดย จำเลย เป็น กรรมการ ผู้จัดการ ระหว่าง วันที่ 11 ถึง วันที่17 กรกฎาคม 2533 จำเลย ได้ นำ ที่ดิน ของ บริษัท จำนวน 8 แปลง รวม เนื้อที่144 ไร่ 50 ตารางวา ไป จำนอง เป็น ประกัน เงินกู้ แก่ ธนาคาร กรุงไทย จำกัด สาขา นครปฐม เอ เป็น เงิน 1,430,000 บาท แล้ว นำ เงิน จำนวนดังกล่าว ไป เป็น ประโยชน์ ส่วนตัว และ วันที่ 25 กันยายน 2533จำเลย ได้ ขาย ที่ดิน ของ บริษัท ทั้ง 8 แปลง ดังกล่าว เป็น เงิน 3,100,000บาท แล้ว เอา เงิน ไป เป็น ประโยชน์ ส่วนตัว การกระทำ ของ จำเลย เป็น การยักยอก เงิน ของ บริษัท ทำให้ โจทก์ ซึ่ง เป็น ผู้ถือหุ้น ได้รับ ความเสียหายโจทก์ จึง ได้ ฟ้อง จำเลย เป็น คดีอาญา ต่อ ศาลจังหวัด นครปฐม ศาล ประทับรับฟ้อง ไว้ พิจารณา แล้ว ตาม คดีอาญา หมายเลขดำ ที่ 1122/2533ของ ศาลจังหวัด นครปฐม จำเลย จะ ต้อง ใช้ หนี้ ให้ แก่ บริษัท เป็น เงิน4,530,000 บาท โจทก์ ทวงถาม ให้ จำเลย ใช้ เงิน คืน แก่ บริษัท แล้วไม่ น้อยกว่า สอง ครั้ง ซึ่ง มี ระยะเวลา ห่าง กัน ไม่ น้อยกว่า สามสิบ วันแต่ จำเลย ไม่สามารถ ชำระหนี้ ได้ เพราะ เป็น ผู้ มี หนี้สินล้นพ้นตัวขอให้ พิพากษา ให้ จำเลย เป็น บุคคล ล้มละลาย
จำเลย ให้การ ว่า จำเลย ไม่เคย เป็น หนี้ โจทก์ ที่ โจทก์ ฟ้อง จำเลยเป็น คดีอาญา ข้อหา ยักยอก เงิน ของ บริษัท เกษตรนิมิต จำกัด เป็น การ ฟ้อง เท็จ จำเลย มิได้ เป็น บุคคล ผู้ มี หนี้สินล้นพ้นตัว ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิจารณา สืบพยานโจทก์ ไป บาง ปาก แล้ว มี คำสั่ง ให้งดสืบพยาน โจทก์ และ ให้ จำเลย นำพยาน เข้าสืบ จน เสร็จ แล้ว พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า มี ปัญหา วินิจฉัย ตาม ฎีกา ของ โจทก์ ประการ แรกว่า โจทก์ มีอำนาจ ฟ้อง ขอให้ จำเลย เป็น บุคคล ล้มละลาย หรือไม่โจทก์ บรรยายฟ้อง ว่า โจทก์ และ จำเลย กับพวก ร่วม ลงทุน ประกอบ กิจการค้า ที่ดิน ใน รูป บริษัท ชื่อ บริษัท เกษตรนิมิต จำกัด ก่อตั้ง ขึ้น เมื่อ วันที่ 28 เมษายน 2533 โดย มี จำเลย เป็น กรรมการ ผู้จัดการระหว่าง วันที่ 11 กรกฎาคม 2533 ถึง วันที่ 25 กันยายน 2533จำเลย ใน ฐานะ กรรมการ ผู้แทน ของ บริษัท เกษตรนิมิต จำกัด ดำเนินการ โดยมิชอบ ยักยอก เงิน ของ บริษัท เกษตรนิมิต จำกัด ไป เป็น ประโยชน์ ส่วนตัว จำนวน 4,530,000 บาท เป็นเหตุ ให้ โจทก์ ซึ่ง เป็น ผู้ถือหุ้นของ บริษัท เกษตรนิมิต จำกัด ได้รับ ความเสียหาย โจทก์ ได้ ทวงถาม ให้ จำเลย ชำระหนี้ จำนวน ดังกล่าว หลาย ครั้ง จำเลย ไม่ชำระ หนี้จำเลย เป็น บุคคล ผู้ มี หนี้สินล้นพ้นตัว ขอให้ พิพากษา ให้ จำเลย เป็นบุคคล ล้มละลาย เห็นว่า เมื่อ บริษัท จดทะเบียน แล้ว กฎหมาย ถือว่าบริษัท เป็น บุคคล ต่างหาก จาก ผู้ถือหุ้น ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 72(4) เดิม , 1015 บริษัท จึง มีสิทธิ หน้าที่ ต่างหาก จากผู้ถือหุ้น ปกติ เมื่อ กรรมการ ผู้ใด ทำให้ บริษัท เสียหาย บริษัท ย่อม เป็นผู้ ฟ้อง เรียก ให้ กรรมการ ผู้ นั้น ชดใช้ ค่าเสียหาย แก่ บริษัทส่วน ผู้ถือหุ้น จะ เป็น ผู้ ฟ้อง ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1169 วรรคแรก นั้น ต้อง เป็น การ ฟ้อง แทน หรือ ฟ้อง เพื่อ ประโยชน์ของ บริษัท เฉพาะ กรณี ที่ บริษัท ไม่ยอม ฟ้อง และ เป็น การ ฟ้อง เพื่อ เรียกร้องเอา สินไหมทดแทน เท่านั้น แต่ การ ที่ โจทก์ นำ หนี้ ค่าสินไหมทดแทนซึ่ง จำเลย ต้อง รับผิด ต่อ บริษัท เกษตรนิมิต จำกัด มา ฟ้อง จำเลย ขอให้ ล้มละลาย เช่นนี้ หาใช่ เป็น กรณี การ ฟ้อง เพื่อ เรียกร้อง เอา สินไหมทดแทนจาก จำเลย แทน หรือ ฟ้อง เพื่อ ประโยชน์ ของ บริษัท เกษตรนิมิต จำกัด ไม่ โจทก์ ซึ่ง เป็น เพียง ผู้ถือหุ้น ของ บริษัท เกษตรนิมิต จำกัด จึง มิได้ อยู่ ใน ฐานะ เจ้าหนี้ ของ จำเลย ที่ จะ ฟ้อง จำเลย ให้ ล้มละลายตาม พระราชบัญญัติ ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 9 ได้
พิพากษายืน