แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ศาลแรงงานกลางพิพากษาว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์เป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมให้จำเลยรับโจทก์เข้าทำงานในตำแหน่งหน้าที่และอัตราค่าจ้างในขณะที่เลิกจ้างเดิมโจทก์ทำงานตำแหน่งหัวหน้าผู้ควบคุมบัญชีของบริษัทจำเลยที่เมืองพัทยา ทำงานเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์จำเลยรับโจทก์กลับเข้าทำงานตำแหน่งเดิมแต่ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ณ สำนักงานที่กรุงเทพมหานครโดยกำหนดให้โจทก์ปฏิบัติงานตามคำสั่งของผู้มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารของบริษัทจำเลยโดยให้โจทก์มีหน้าที่เฉพาะตรวจและให้คำแนะนำในทางบัญชีตามที่ได้รับมอบหมายเป็นครั้งคราวเป็นเรื่องที่นายจ้างมอบหมายงานที่เห็นสมควรให้ทำจำเลยมีอำนาจทำได้ส่วนสถานที่ทำงานเมื่อโจทก์มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพมหานครย่อมเป็นการสะดวกแก่โจทก์ยิ่งขึ้นโจทก์ก็มิได้อ้างว่าเป็นการเพิ่มภาระจำเลยจึงมีคำสั่งได้เช่นกันแต่การกำหนดให้โจทก์ทำงานในวันศุกร์และวันเสาร์โดยที่ในวันจันทร์ถึงวันศุกร์โจทก์มีภาระที่อื่นประจำอยู่แล้วจึงไม่ถูกต้องตามสภาพการจ้างเดิมและก่อภาระหน้าที่ให้แก่โจทก์จำเลยต้องให้โจทก์ทำงานเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์.
ย่อยาว
มูลกรณีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรม ขอให้บังคับจำเลยให้รับโจทก์เข้าทำงานกับชดใช้ค่าเสียหาย ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า การที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์เป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม พิพากษาให้จำเลยรับโจทก์เข้าทำงานในตำแหน่งหน้าที่และอัตราค่าจ้างในขณะที่เลิกจ้างศาลฎีกาพิพากษายืน คดีถึงที่สุด ต่อมา วันที่ 11 มิถุนายน 2527โจทก์ยื่นคำร้องว่า เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2527 โจทก์ได้ไปรายงานตัวต่อจำเลย แล้วจำเลยมีคำสั่งให้โจทก์ทำงานในตำแหน่งหัวหน้าควบคุมบัญชีเช่นเดิม แต่ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ณ สำนักงานเลขที่ 175 ถนนวิสุทธิกษัตริย์ กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่1 มิถุนายน 2527 เป็นต้นไป โดยให้ได้รับเงินเดือนในอัตราเดือนละ 6,000 บาท และให้โจทก์ปฏิบัติงานตามคำสั่งของนายประเสริฐ ฟูตระกูล หรือนาย เอ.เอ็กซ์ฟาสส์บินต์ หรือนางพงาวรรธนะกุล โดยมีหน้าที่เฉพาะตรวจและให้คำแนะนำในทางบัญชีของบริษัทตามที่บุคคลดังกล่าวจะมอบหมายให้เป็นครั้งคราว โจทก์เห็นว่าคำสั่งของจำเลยดังกล่าวไม่เป็นไปตามคำพิพากษา เพราะก่อนเลิกจ้างโจทก์ตำแหน่งหน้าที่ควบคุมฝ่ายการบัญชีของบริษัท กิจการด้านบัญชีทั้งหมดจะต้องผ่านการควบคุมดูแบและตรวจสอบของโจทก์ มิใช่หน้าที่เฉพาะตรวจและให้คำแนะนำตามที่บุคคลใดมอบหมาย โจทก์ได้รับเงินเดือนในอัตราเดือนละ 6,000 บาท และเงินสวัสดิการหรือเบี้ยเลี้ยงเดือนละ 2,000 บาท ทำงานเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ที่โรงแรมโรแยล คลิฟ บีช โฮเต็ล ของจำเลยที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรีเท่านั้น ขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติให้เป็นไปตามคำพิพากษา
จำเลยยื่นคำคัดค้านว่า นายจ้างย่อมมีอำนาจโดยชอบที่จะงดมอบหมายงานให้แก่ลูกจ้างได้ เพียงแต่นายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างตลอดเวลาที่จ้างกันเท่านั้น การที่จำเลยมอบหมายงานเฉพาะงานตรวจและให้คำแนะนำในทางบัญชีแก่โจทก์ จึงเป็นสิทธิโดยชอบของจำเลยที่กระทำได้เพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทจำเลย โจทก์ได้รับเงินเดือนในอัตราเดือนละ 6,000 บาท ส่วนเงินอีก2,000 บาท เป็นค่าหาหนะที่โจทก์จะต้องเดินทางจากกรุงเทพมหานครไปปฏิบัติงานที่พัทยา เมื่อจำเลยให้โจทก์ปฏิบัติงานที่กรุงเทพมหานครแล้ว โจทก์ก็ไม่มีสิทธิที่จะรับค่าพาหนะ อย่างไรก็ดีเพื่อตัดปัญหาจำเลยยินดีที่จะจ่ายเงินจำนวน 2,000 บาท เพิ่มให้แก่โจทก์ จำเลยยังมิได้กำหนดวันทำงานตามปกติให้แก่โจทก์ แต่จำเลยพร้อมที่จะให้โจทก์เป็นผู้เลือกวันทำงานในสองวันวันใดของสัปดาห์ได้
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า จำเลยมีคำสั่งให้โจทก์มีตำแหน่งหัวหน้าผู้ควบคุมบัญชีเช่นเดิม เป็นการปฏิบัติตามคำพิพากษาเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่ของโจทก์แล้ว ส่วนเรื่องเงินเดือนเมื่อจำเลยแถลงว่ายินดีจะจ่ายให้อีกเดือนละ 2,000 บาท รวมเป็น 8,000 บาทแล้วจึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยมีคำสั่งให้จำเลยจ่ายเงินเดือนเบี้ยเลี้ยง สวัสดิการหรือ ค่าพาหนะ รวมเดือนละ 8,000 บาทให้โจทก์
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า เดิมโจทก์ทำงานในตำแหน่งหัวหน้าผู้ควบคุมบัญชี ทำงานสัปดาห์ละ 2 วัน เฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ ที่โรงแรมโรแยลคลิฟ บิช โฮเต็ล เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี จำเลยรับโจทก์กลับเข้าทำงานในตำแหน่งหัวหน้าผู้ควบคุมบัญชีทำงานสัปดาห์ละ 2 วันเช่นเดิม แต่ให้ปฏิบัติหน้าที่ ณ สำนักงานบริษัทจำเลยเลขที่ 175 ถนนวิสุทธิกษัตริย์ กรุงเทพมหานคร โดยทำงานในวันศุกร์และวันเสาร์ เพราะที่สำนักงานดังกล่าวทำงานตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ หยุดวันอาทิตย์ และจำเลยกำหนดให้โจทก์ปฏิบัติงานตามคำสั่งของนายประเสริฐ ฟูตระกูล ประธานกรรมการนาย เอ.เอ๊กซ์ฟาสส์บินต์ ผู้จัดการใหญ่ หรือนางพงา วรรธนุกุลรองผู้จัดการใหญ่ โดยให้มีหน้าที่เฉพาะตรวจและให้คำแนะนำในทางบัญชีของบริษัทตามที่บุคคลดังกล่าวจะมอบหมายให้เป็นครั้งคราว เห็นว่าจำเลยรับโจทก์เข้าทำงานในตำแหน่งหัวหน้าควบคุมบัญชีอันเป็นตำแหน่งเดิมแล้ว การที่จำเลยกำหนดให้โจทก์ปฏิบัติงานตามคำสั่งของผู้มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารบริษัทจำเลยคนใดคนหนึ่งในจำนวนสามคน และให้โจทก์มีหน้าที่เฉพาะตรวจและให้คำแนะนำในทางบัญชีของบริษัทตามที่บุคคลดังกล่าวมอบหมายเป็นครั้งคราว เป็นเรื่องจำเลยในฐานะนายจ้างมอบหมายงานเท่าที่เห็นสมควรให้โจทก์ทำ ซึ่งจำเลยมีอำนาจที่จะทำได้โดยเฉพาะเมื่อโจทก์กับคณะกรรมการของบริษัทจำเลยต่อสู้คดีความกันอยู่หลายคดี ย่อมชอบที่จำเลยจะใช้อำนาจนั้นเพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทจำเลย ที่โจทก์อ้างว่าโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นคนหนึ่งของบริษัท เป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องควบคุมดูแลผลประโยชน์ของบริษัทอย่างดีที่สุดนั้น เป็นเรื่องอำนาจของโจทก์ในฐานะผู้ถือหุ้นเป็นคนละฐานะกัน จะนำมาอ้างมิได้ส่วนในเรื่องสถานที่ทำงาน เมื่อปรากฏว่าโจทก์มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพมหานคร การที่จำเลยมีคำสั่งให้โจทก์ปฏิบัติหน้าที่ ณสำนักงานบริษัทจำเลยเลขที่ 175 ถนนวิสุทธิกษัตริย์ กรุงเทพมหานครย่อมเป็นความสะดวกแก่โจทก์ยิ่งขึ้น โจทก์ก็มิได้อ้างว่าเป็นการเพิ่มภาระให้แก่โจทก์แต่อย่างใด จำเลยจึงมีคำสั่งในข้อนี้ได้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดี ปรากฏว่าเดิมโจทก์ทำงานเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ และโจทก์อุทธรณ์อ้างว่าในวันจันทร์ถึงวันศุกร์โจทก์มีภาระที่อื่นประจำอยู่แล้ว ดังนี้ การที่จำเลยกำหนดให้โจทก์ทำงานในวันศุกร์และวันเสาร์จึงไม่ถูกต้องตามสภาพการจ้างเดิมและก่อภาระหน้าที่ให้แก่โจทก์ จำเลยจะอ้างว่าสำนักงานของจำเลยทำงานตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ หยุดวันอาทิตย์ จึงต้องเปลี่ยนให้โจทก์ทำงานในวันศุกร์และวันเสาร์หาได้ไม่
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยให้โจทก์ทำงานเฉพาะในวันเสาร์และวันอาทิตย์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำสั่งศาลแรงงานกลาง.