แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้าวและเรือที่ใช้บรรทุกข้าวของกลางในคดีที่หาว่า ทำผิด พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว จะริบได้ต่อเมื่อปรากฏว่ามีผู้หนึ่งผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา 10 หากยังไม่ปรากฏว่า ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 10 แล้วจะริบมิได้
ย่อยาว
คดีมีปัญหาเฉพาะการริบของกลาง โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันขนย้ายข้าวสาร 70 กิโลกรัมทางทะเล ฝ่าฝืนประกาศฯ จำเลยที่ 2 เป็นนายเรือ ซึ่งไม่มีใบอนุญาตและไม่ได้นำเรือไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจเมื่อจะออกเรือ เรือนั้นบรรทุกน้ำตาล จำเลยทุกคนให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นไม่ฟังว่าจำเลยทำผิด ให้ยกฟ้อง ริบข้าวและเรือ
ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยศาลชั้นต้นที่ไม่ฟังว่าจำเลยทำผิดแต่เห็นว่าข้าวและเรือโดยปกติไม่ใช่ของที่มีสภาพเป็นความผิดในตัวเองต่อเมื่อผู้ใดผู้หนึ่งเกี่ยวข้องการกระทำผิดขึ้น จึงเป็นของต้องริบคดีนี้ไม่ปรากฏว่าจำเลยคนใดกระทำผิด ข้าวและเรือจะเกิดมีความผิดขึ้นเองหาได้ไม่ พิพากษาแก้ ไม่ให้ริบข้าวและเรือ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489มาตรา 10 ห้ามการขนย้ายข้าว แต่ข้อเท็จจริงในคดีนี้ไม่ได้ความว่ามีการขนย้ายข้าว ๆ ที่ติดเรือไปมีจำนวนเล็กน้อยสำหรับบริโภคไม่ฝ่าฝืนมาตรา 10 จะมีการริบข้าวและเรือไม่ได้
พิพากษายืน