คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1906/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยกระทำผิดฐาน พยายามฆ่าผู้อื่นโดย ไตร่ตรอง ไว้ก่อนตามป.อ. มาตรา 289(4)80 ฐาน มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครอง และพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน และทางสาธารณะโดย ไม่ได้รับอนุญาตตามพ.ร.บ. อาวุธปืนฯ มาตรา 772 วรรคสาม 8 ทวิ วรรคแรก 72 ทวิ วรรคสองศาลวางโทษจำคุกตลอด ชีวิต 3 ปี 6 เดือน และ 9 เดือน ตาม ลำดับ จำเลยให้การรับสารภาพต่อ ศาลเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งโทษจำคุกตลอด ชีวิต เปลี่ยนเป็นโทษจำคุก 50 ปี จึง เหลือ 25 ปี ตาม ป.อ.มาตรา 5378 และโทษจำคุกฐาน มีอาวุธปืน ไว้ในความครอบครองและพาอาวุธปืน คงเหลือโทษจำคุก 9 เดือน และ 4 เดือน 15 วัน ตาม ลำดับ รวมกระทงความผิดทั้งหมดเป็นโทษ จำคุก 25 ปี 13 เดือน 15 วัน ดังนี้ แม้ จำเลยต้องโทษสำหรับกระทง ที่ศาลกำหนดโทษจำคุกตลอด ชีวิต แล้ว ก็สามารถนำโทษสำหรับความผิด กระทงอื่นมารวมเข้าอีก เพราะการปรับบทลงโทษจำคุกในคดีนี้ ยังจะต้อง ลดโทษจำคุกในความผิดแต่ ละกระทงเสียก่อนจึงจะนำโทษ จำคุกที่ลดแล้วมารวมกัน ทั้งกรณีมิใช่เป็นการเพิ่มโทษจำเลยแต่ เป็น การเรียงกระทงลงโทษในการกระทำอันเป็นความผิดหลายกรรม ตาม ป.อ. มาตรา 91.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,289(4), 371, 80, 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519ข้อ 3, 6, 7 และริบปลอกกระสุนปืนกับหัวกระสุนปืนของกลาง คืนอาวุธปืนและซองพกปืนของกลางแก่เจ้าของ
จำเลยให้การรับสารภาพ
ระหว่างพิจารณา นายประยุทธ สิทธิศักดิ์ ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 289(4), 371, 80 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7,8 ทวิ, 72, 72 ทวิ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 3, 6, 7 ฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนให้จำคุกตลอดชีวิต ฐานมีอาวุธปืนให้จำคุก 1 ปี6 เดือน ฐานพาอาวุธปืนให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ซึ่งเป็นบทหนัก ให้จำคุก 9 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้างเพียงบางส่วน อันเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ฐานพยายามฆ่าผู้อื่นคงให้จำคุก 33 ปี 4 เดือน ฐานมีอาวุธปืนคงให้จำคุก 1 ปี ฐานพาอาวุธปืนคงให้จำคุก 6 เดือน รวมจำคุก 34 ปี 10 เดือน ริบปลอกกระสุนปืนและหัวกระสุนปืนของกลาง ให้คืนอาวุธปืนและซองพกปืนของกลางแก่เจ้าของ
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(1) พระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 วรรคสาม, 8 ทวิ วรรคแรก, 72 ทวิ วรรคสองจำเลยให้การรับสารภาพในฐานความผิดตามฟ้องเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78ความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นเปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นโทษจำคุก50 ปี ตามมาตรา 53 แล้ว คงจำคุก 25 ปี ฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองจำคุก 9 เดือน ฐานพาอาวุธปืน จำคุก 4 เดือน 15 วัน รวมจำคุก 25 ปี13 เดือน 15 วัน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จำเลยฎีกาว่า คดีนี้จำเลยกระทำความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ฐานมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครอง และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยมิได้รับอนุญาต แต่โทษฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนมีอัตราโทษจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ที่ถูกคือประมวลกฎหมายอาญา) มาตรา 51 ได้บัญญัติไว้ว่า “ในการเพิ่มโทษมิให้เพิ่มขึ้นถึงประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกเกินห้าสิบปี”ฉะนั้นในคดีนี้จำเลยจึงควรได้รับโทษทั้งหมดเพียงจำคุกตลอดชีวิตตามความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนเท่านั้น จะเพิ่มโทษในความผิดฐานอื่นอีกไม่ได้ เมื่อลดโทษจำคุกตลอดชีวิตในความผิดฐานพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จึงคงเหลือกำหนดโทษจำคุกที่จำเลยจะได้รับเพียง 25 ปี นั้น เห็นว่า กรณีมิใช่เป็นการเพิ่มโทษดังที่จำเลยอ้าง และการปรับบทลงโทษในคดีนี้เป็นการเรียงกระทงลงโทษในการกระทำอันเป็นความผิดหลายกรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 กล่าวคือ เป็นการเรียงกระทงลงโทษในกระทงความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4), 80 ฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองและพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 วรรคสาม และมาตรา 8 ทวิ วรรคแรก,72 ทวิ วรรคสอง ตามลำดับ แต่ในกรณีนี้มีการลดโทษลงกึ่งหนึ่งโดยเหตุบรรเทาโทษเนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพต่อศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา จึงต้องลดโทษจำคุกแต่ละกระทงความผิดลงกึ่งหนึ่งสำหรับโทษจำคุกตลอดชีวิตจะต้องเปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นโทษจำคุกห้าสิบปี จึงคงเหลือโทษจำคุก 25 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 53, 78 และโทษจำคุกฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองและฐานพาอาวุธปืน คงเหลือจากโทษจำคุกที่ศาลกำหนดเป็น 9 เดือน และ 4 เดือน15 วัน ตามลำดับ ดังนั้น เมื่อรวมกระทงความผิดทั้งหมดจึงเป็นโทษจำคุกรวม 25 ปี 13 เดือน 15 วัน ที่จำเลยฎีกาในทำนองว่าเมื่อจำเลยต้องรับโทษสำหรับกระทงที่ศาลกำหนดโทษจำคุกตลอดชีวิตแล้วจะนำโทษจำคุกสำหรับความผิดกระทงอื่นมารวมเข้าอีกไม่ได้นั้นไม่ถูกต้อง เพราะสำหรับการปรับบทลงโทษจำคุกในคดีนี้ยังจะต้องลดโทษจำคุกในความผิดแต่ละกระทงเสียก่อนจึงจะนำโทษจำคุกที่ลดแล้วมารวมกันที่ศาลล่างทั้งสองรวมกระทงโทษจำคุกทั้งหมดนั้นชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น แต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(1) นั้น ไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289(4), 80 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share