คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 190/2466

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พ.ร.บ. ภาษีโรงร้าน จ.ศ.1232 ท้องตราเสนาบดี กับกฎหมาย

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องเรียกเงินค่าภาษีโรงร้านโดยกล่าวว่าจำเลยไม่ยอมเสียภาษีโรงร้าน ๑๒ ชัก ๑ กึ่ง ตามประกาศภาษีโรงร้าน จุลศักราช ๑๒๓๒ แลพิกัดท้องตราภาษีโรงร้านหมายเลข ๕ ข้อ ๑
จำเลยให้การว่าจำเลยยอมเสียภาษีโรงร้านตามประกาศที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้เก็บตามหัวเมืองปักษ์ใต้ฝ่ายเหนือ ๑๒ ชัก ๑ โจทย์จะเก็บภาษี ๑๒ ชัก ๑ กึ่ง ส่วนที่เกินไปอีกกึ่งหนึ่งจำเลยไม่ยอมเสีย
ศาลมณฑลสุราษฎร์พิพากษาให้จำเลยเสียภาษีโรงร้าน ๑๒ ชัก ๑ กึ่ง ตามพิกัดท้องตราภาษีโรงร้าน หมายเลข ๕ ข้อ ๑
ศาลอุทธรณ์ข้าหลวงพิเศษเห็นว่ามีประกาศพระราชบัญญัติให้เก็บภาษีโรงร้านที่ให้เช่าตามหัวเมืองปักษ์ใต้ฝ่ายเหนือ ๑๒ ชัก ๑ เท่านั้นที่โจทก์อ้างพิกัดท้องตราภาษีโรงร้านหมายเลข ๕ ข้อ ๑ ให้เก็บภาษีโรงร้านตามหัวเมือง ๑๒ ชัก ๑ กึ่ง เปนการขัดกับพระราชบัญญัติใช้ไม่ได้ จึงยกคำพิพากษาศาลเดิม ให้จำเลยเสียภาษีโรงร้านเพียง ๑๒ ชัก ๑
โจทย์ฎีกาอ้างว่า ภาษีโรงร้าน จุลศักราช ๑๒๓๒ ให้เก็บภาษีโรงร้านตามหัวเมือง ๑๒ ชัก ๑ จำเพาะโรงร้านเท่านั้น หาได้เกี่ยวถึงตลาดแผงลอยไม่ ส่วนพิกัดท้องตราภาษีโรงร้านหมายเลข ๕ ข้อ ๑ ให้เก็บภาษีตลาดแผงลอย ๑๒ ชัก ๑ กึ่ง ไม่เปนการขัดกับประกาศนั้น ยังคงใช้ได้
ศาลฎีกาเห็นว่าได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ยกเลิกภาษีตลาดเสียแล้ว ที่โจทย์ฟ้องอ้างท้องตราพิกัดภาษีโรงร้านเก็บตลาดแผงลอยตามหัวเมือง ๑๒ ชัก ๑ กึ่งอีกนั้น ได้เรียกโจทย์มาสอบถาม โจทย์ก็อธิบายไม่ได้ว่าใครเปนผู้ออกพิกัดท้องตรานี้ ออกวันเดือนใด จะได้ประกาศใช้ในราชกิจาหรือไม่ โจทย์ไม่ทราบ ได้ความแต่ว่ากรมสรรพากรได้พิมพ์พิกัดท้องตราหมายเลข ๕ นี้ในสมุดเล่มหนึ่งสำหรับให้สรรพกรหัวเมืองเก็บภาษีโรงร้านแลมีท้องตราเสนาบดีกระทรวงพระคลังถึงสมุหเทศาภิบาลมณฑลสุราษฎร์ให้ใช้พิกัดท้องตราหมายเลข ๕ นี้เก็บภาษีตลาดแผงลอย ๑๒ ชัก ๑ กึ่ง หลักฐานที่โจทย์อ้างมานั้นไม่เปนข้อที่จะเปลี่ยนแปลงประกาศพระบรมราชโองการให้เก็บภาษีโรงร้านจุลศักราช ๑๒๓๒ ได้ ศาลอุทธรณ์ข้าหลวงพิเศษให้จำเลยเสียค่าภาษีโรงร้าน ๑๒ ชัก ๑ นั้นถูกต้องแล้ว ให้ยกฎีกาโจทย์เสีย

Share