แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำเบิกความของผู้ร่วมกระทำผิดซึ่งถูกแยกฟ้อง เป็นอีกคดีหนึ่ง ถือว่าเป็นคำซัดทอดระหว่าง ผู้กระทำผิดด้วยกัน มีน้ำหนักน้อย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง อีก ๓ คน และจำเลยในคดีอื่นของศาลชั้นต้นได้ร่วมกันกระทำผิดโดยจำเลยเป็นผู้ใช้จ้างวาน ฯ และร่วมกระทำผิดฐานมีไม้สักยังไม่ได้แปรรูปการแปรรูป และมีไม้ สักที่แปรรูปแล้ว และนำรถยนต์บรรทุกสาธารณะฯ ซึ่งไม่ได้เสียภาษีรถยนต์ ประจำปี ให้ถูกต้องออกใช้อันเป็นความผิดต่อ พระราชบัญญัติป่าไม้ และความผิดต่อ พระราชบัญญัติรถยนต์ ขอให้ลงโทษในคดีนี้ และสั่งให้จำเลยจ่ายสินบนนำจับตามกฎหมาย
จำเลยให้การปฏิเสธในความผิดต่อ พระราชบัญญัติป่าไม้ทุกข้อหา แต่รับสารภาพ ว่าได้กระทำผิดตาม พระราชบัญญัติรถยนต์ และรับว่า เป็นบุคคลเดียวกันจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๗๑/๒๕๒๐ ของศาลจังหวัดตาก
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง ฐานแปรรูปไม้จำคุก ๖ เดือน ปรับ ๒,๐๐๐ บาท ฐานมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองจำคุก ๖ เดือน ปรับ ๒,๐๐๐ บาท ฐานมีไม้สักยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครอง จำคุก ๖ เดือน ๒,๐๐๐ บาท ฐานนำรถยนต์ซึ่งยังไม่ได้เสียภาษีประจำปีออกใช้ ปรับ ๑,๐๐๐ บาท เฉพาะความผิดฐานหลังนี้จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับ ๕๐๐ บาท รวมโทษจำคุก ๑ ปี ๖ เดือน ปรับ ๖,๕๐๐ บาท ให้จำเลยจ่ายเงินสินบนนำจับ ๓,๐๐๐ บาท รถยนต์ของกลางไม่ริบ และยกคำขอที่ให้นับโทษต่อ
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้องเฉพาะข้อหาในความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า นายขม นายพร นายพูล พยานโจทก์ ทั้งสามปากถูกจับกรณีเรื่องเดียวกันในผิดต่อ พระราชบัญญัติ ป่าไม้ ได้ถูกฟ้องเป็นจำเลยต่อศาล ศาลพิพากษาลงโทษไปก่อนแล้ว ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๑๘๙/๒๕๒๒ ของศาลจังหวัดตาก คำเบิกความของนายชม นายพร นายพูล ในคดีนี้ว่าจำเลย เป็นผู้ว่าจ้างให้เลื่อยไม้ของกลางนั้น ถือว่าเป็นคำซัดทอดระหว่างผู้กระทำผิดด้วย มีน้ำหนักน้อย พยานหลักฐานโจทก์ไม่พอฟังลงโทษจำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน