คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1873/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในวันที่โจทก์ซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนนำพยานเข้าเบิกความ จำเลยกับทนายจำเลยไม่ได้มาศาลโดยทนายจำเลยมอบฉันทะ ให้ เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดี แต่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตและให้โจทก์สืบพยานไปฝ่ายเดียว ต่อมาจำเลยได้นำสืบ เปลี่ยนแปลงแก้ไข คำของพยานโจทก์ที่นำสืบไว้ดังกล่าว เช่นนี้ เป็นเรื่องทนายจำเลย ไม่มีโอกาสซักค้านพยานโจทก์ มิใช่ทนายจำเลยไม่ถามค้านเพื่อเอาเปรียบ ในเชิงคดีเมื่อ เรื่องที่จำเลยนำสืบนั้นตรงตามข้อต่อสู้ในคำให้การ ซึ่งเป็น ประเด็นข้อพิพาทในคดีแล้ว ข้อนำสืบของจำเลยจึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 ทั้งในวรรคสามของมาตรานี้ยังให้ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจรับฟังคำพยานเช่น ว่านี้ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมได้อีกด้วย
สัญญาได้กำหนดเวลาให้โจทก์ปฏิบัติการชำระหนี้แก่จำเลยไว้ชัดแจ้งแล้ว ไม่มีระบุไว้ในข้อใดให้โจทก์ต้องสอบถามจำเลยก่อนชำระหนี้ เมื่อปรากฏว่าโจทก์ไม่ปฏิบัติการชำระหนี้ตาม สัญญาเพราะโจทก์ ไม่อาจกระทำการชำระหนี้ได้ภายในเวลาที่ กำหนดไว้ดังกล่าว โจทก์จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ โดยจำเลยที่ ๒ ในฐานะกรรมการของจำเลยที่ ๑ และในฐานะส่วนตัวได้สั่งจองพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปของโจทก์เพื่อนำไปใช้กับอาคารพาณิชย์ ต่อมาขณะที่โจทก์เตรียมงานเพื่อส่งมอบพื้นคอนกรีตแก่จำเลย จำเลยทั้งสองแจ้งขอยกเลิกสัญญา ทำให้โจทก์เสียหายเพราะได้ลงทุนซื้อวัสดุอุปกรณ์และจัดหาช่าง โจทก์ได้แจ้งยกเลิกการรับจองไปยังจำเลยและเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวแล้ว ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยทำสัญญากับโจทก์จริง แต่การติดตั้งจะต้องทำในกำหนดเวลาที่ระบุไว้ มิฉะนั้นจะทำให้จำเลยที่ ๑ เสียหายขาดทุนสัญญาจึงกำหนดเวลาติดตั้งพื้นคอนกรีตไว้แน่นอน คือต้นเดือนกันยายัน ๒๕๒๒ แต่เมื่อถึงกำหนดเวลาดังกล่าวโจทก์ไม่จัดส่งมอบและติดตั้งพื้นคอนกรีต จนล่วงเลยเวลาพอสมควรแล้ว แสดงว่าโจทก์ประสงค์จะเลิกสัญญา จำเลยที่ ๒ จึงบอกเลิกสัญญาโจทก์ไม่ได้เตรียมงานหล่อพื้นคอนกรีตและไม่ได้รับความเสียหาย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยทั้งสองมิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญา พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ที่โจทก์ฎีกาว่า คดีนี้จำเลยทั้งสองสืบพยานภายหลังและได้นำสืบว่า เมื่อประมาณวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๒๒ โจทก์ยังไม่ได้นำพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปที่สั่งจองมาส่ง จำเลยที่ ๒ จึงได้โทรศัพท์เร่งรัดให้โจทก์นำมาส่ง โดยติดต่อกับนายธาดาซึ่งเป็นตัวแทนโจทก์มาติดต่อให้จำเลยซื้อพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปและทำหนังสือสั่งจองไว้ตามเอกสารหมาย จ.๓ เป็นการนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำของนายจรัส ขวัญวิเชียร พยานโจทก์ที่นำสืบก่อน แต่จำเลยทั้งสองไม่ได้ถามค้านไว้ในขณะที่นายจรัสเบิกความ จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๘๙ และโจทก์ก็ได้คัดค้านไว้แล้ว ศาลจะรับฟังพยานจำเลยในเรื่องดังกล่าวไม่ได้ นั้น ข้อเท็จจริงได้ความว่าในวันที่โจทก์นำนายจรัสเข้าเบิกความเป็นพยานเมื่อวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๒๕ จำเลยทั้งสองกับทนายไม่ได้มาศาลโดยทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีและมอบฉันทะให้เสมียนทนายมาศาลเพื่อยืนคำร้องฟังคำสั่งศาลและกำหนดวันนัดพิจารณาคดี แต่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและให้โจทก์สืบพยานไปฝ่ายเดียว รูปคดีจึงเป็นเรื่องทนายจำเลยไม่มีโอกาสซักค้านพยานโจทก์หาใช่ทนายจำเลยไม่ยอมซักค้านเพื่อเอาเปรียบในเชิงคดีไม่ และเรื่องที่จำเลยทั้งสองนำสืบก็ตรงตามข้อสู้ในคำให้การซึ่งเป็นประเด็นข้อพิพาทที่ศาลจะต้องวินิจฉัยว่าฝ่ายใดผิดสัญญาด้วย จึงไม่ขัดหรือต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๘๙ วรรคสอง ยิ่งกว่านั้น ในวรรคสามของมาตรานี้ยังให้ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจรับฟังคำพยานเช่นว่านี้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมได้อีก
ที่โจทก์ฎีกามาอีกข้อหนึ่งว่า ตามสัญญาเอกสารหมาย จ.๓ ที่ได้กำหนดเวลาให้โจทก์ไปส่งมอบและติดตั้งพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปประมาณต้นเดือนกันยายน ๒๕๒๒ ไม่ได้หมายความว่าโจทก์จะผิดสัญญาทันทีหากโจทก์ไม่ไปส่งมอบและติดตั้งพื้นคอนกรีตสำเร็จรูป ณ สถานที่ก่อสร้างให้แก่จำเลยทั้งสองภายในกำหนดเวลาดังกล่าวตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไว้เพราะจำเลยทั้งสองก็มีหน้าที่ต้องจัดเตรียมสถานที่ก่อสร้างให้พร้อมที่จะรับมอบและให้คนของโจทก์เข้าไปดำเนินการติดตั้งพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปภายในกำหนดเวลาเดียวกัน การที่โจทก์สอบถามจำเลยก่อนว่าได้จัดเตรียมสถานที่ไว้เพื่อจะรับมอบพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปแล้วหรือยัง จึงเป็นเรื่องที่โจทก์ขอปฏิบัติตามสัญญาแต่จำเลยทั้งสองยังไม่ได้จัดเตรียมสถานที่ไว้ ต้องถือว่าจำเลยทั้งสองเป็นฝ่ายผิดสัญญานั้น เห็นว่า ตามสัญญาดังกล่าวได้กำหนดเวลาให้โจทก์ปฏิบัติการชำระหนี้แก่จำเลยไว้ชัดแจ้งแล้ว ไม่มีระบุไว้ในสัญญาข้อใดให้โจทก์ต้องสอบถามจำเลยก่อนที่จะส่งมอบพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปตามข้อโต้แย้งของโจทก์ และศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์ยังมิได้หล่อพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปเพื่อจะส่งมอบให้แก่จำเลยตามสัญญาเนื่องจากโจทก์ต้องรอหาซิเมนต์อยู่ ถึงกลางเดือนกันยายน ๒๕๒๒ โจทก์ก็ยังไม่ไปติดตั้งพื้นคอนกรีตสำเร็จรูป เพียงโทรศัพท์ติดต่อสอบถามจำเลยเท่านั้น จึงเป็นเรื่องโจทก์ไม่อาจส่งมอบและติดตั้งพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปให้แก่จำเลยภายในกำหนดเวลาตามสัญญาได้ ต้องถือว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาเอง
พิพากษายืน

Share