คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เช่าห้องแถวจำเลยเป็นเวลา 30 ปี เมื่อเช่าแล้วได้ 3 และ 4 ปีโจทก์ปลูกสร้างห้องเพิ่มเติมและยุ้งข้าวในที่ดินจำเลยโดยได้รับอนุญาตจากจำเลยและสามีจำเลยเคยอนุญาตให้โจทก์รื้อถอนไปได้เมื่อเลิกเช่า ต่อมาโจทก์จำเลยได้ทำหนังสือสัญญาเช่ากันเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2507 มีความว่า ผู้เช่ายอมตกลงให้สิ่งปลูกสร้างหรือซ่อมแซมลงในบริเวณบ้านเช่าตกเป็นของผู้ให้เช่า ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าโจทก์สละเจตนาที่จะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่มีสิทธิรื้อถอนมาแต่เดิม ยอมให้สิ่งปลูกสร้างไม่ว่าจะได้ทำไว้แล้วหรือที่จะทำต่อไปตกเป็นของจำเลยทั้งสิ้น ถือว่าข้อห้ามรื้อถอนกินความถึงสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดที่ได้ทำแล้วและกำลังทำหรือจะทำขึ้นใหม่ มิใช่ใช้บังคับเฉพาะสิ่งปลูกสร้างที่ทำขึ้นในระหว่างอายุหนังสือสัญญาเช่าเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เช่าห้องแถวจำเลยเป็นเวลา ๓๐ ปีแล้ว เมื่อเช่าได้ ๓ ปีและ ๔ ปี โจทก์ปลูกสร้างห้องเพิ่มเติมและยุ้งข้าวในที่ดินจำเลยโดยได้รับอนุญาตจากจำเลย จำเลยรับรองว่าสิ่งปลูกสร้างนี้เป็นของโจทก์ เลิกการเช่าแล้วให้โจทก์รื้อไปได้ ต่อมานายวิชัยบุตรโจทก์นำไม้กระดานบนพื้นยุ้งข้าวไปทำเขื่อน จำเลยไปร้องทุกข์ว่านายวิชัยลัก ขอให้ศาลพิพากษาว่าทรัพย์ดังกล่าวเป็นของโจทก์
จำเลยให้การว่า ไม่เคยรับรองว่าเลิกเช่าแล้วจะให้โจทก์รื้อสิ่งปลูกสร้างไปได้ การเช่าระหว่างโจทก์จำเลยทำหนังสือสัญญากันเมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๐๗ สิ่งก่อสร้างไม่ว่าก่อนหรือหลังทำหนังสือสัญญา โจทก์ไม่มีสิทธิรื้อถอนไป ฯลฯ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่าทรัพย์ดังกล่าวเป็นของโจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อโจทก์ทำหนังสือสัญญาใหม่กับจำเลยในวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๐๗ ว่า “บรรดาสิ่งก่อสร้างหรือซ่อมแซมลงในบริเวณบ้านเช่า เมื่อผู้เช่าออกจากบ้านเช่า ห้ามมิให้รื้อถอนหรือทำลายและสิ่งก่อสร้างซ่อมแซมต้องตกเป็นของผู้ให้เช่าทั้งสิ้น” ไม่ปรากฏข้อความที่บ่งไว้มิให้คลุมถึงสิ่งปลูกสร้างที่โจทก์ได้ทำไว้ก่อนแล้ว ย่อมถือได้ว่าโจทก์สละเจตนาที่จะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่มีสิทธิรื้อถอนออกมาแต่เดิม ยอมให้สิ่งปลูกสร้างไม่ว่าจะได้ทำไว้แล้วหรือที่จะทำต่อไปตกเป็นของจำเลยทั้งสิ้น ทั้งสองฝ่ายรู้ดีอยู่แล้วว่าในขณะทำหนังสือสัญญาเช่ามีสิ่งปลูกสร้างอะไรอยู่บ้างเมื่อไม่มีข้อความจำกัดไว้ให้หมายถึงเฉพาะสิ่งปลูกสร้างที่จะทำขึ้นใหม่ และไม่ปรากฏว่าในการทำหนังสือสัญญาเช่ามีการโต้แย้งสงวนสิทธิไว้อย่างใดเกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้างที่มีอยู่แล้ว จึงต้องถือว่าข้อห้ามรื้อถอนกินความถึงสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดที่ได้ทำแล้วและกำลังทำหรือจะทำขึ้นใหม่ มิใช่บังคับเฉพาะสิ่งปลูกสร้างที่ทำขึ้นในระหว่างอายุหนังสือสัญญาเช่าเท่านั้น
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.

Share