แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์กล่าวในฟ้องว่าเหตุเกิดวันที่ 14 ส.ค.95 เวลากลางคืน และระบุไว้ชัดว่าเวลากลางคืนตาม ก.ม.ดังนี้แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าเหตุเกิดเวลา 2 น.ของวันที่ 15 ก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นฟ้องผิดวัน เพราะเวลา 2 น.ของวันที่ 15 นั้นติดต่อเป็นคืนเดียวกับคืนวันที่ 14 อ้างฎีกาที่ 443/2489.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๑๔ ส.ค.๙๕ เวลากลางคืน (เวลากลางคืนตาม ก.ม.) จำเลยบังอาจให้ปืนยาวตีโจทก์ถูกที่หน้าผากและศีร์ษะบาดเจ็บสาหัส ขอให้ลงโทษ
จำเลยปฏิเสธ
ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชเห็นว่าโจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดวันที่ ๑๔ ส.ค.๙๕ เวลากลางคืน ทางพิจารณาได้ความว่าเหตุเกิดเวลา ๒ น.เลยกลางคืนหลังเที่ยงคืนของวันที่ ๑๔ แล้วจึงเป็นเวลากลางคืนก่อนเที่ยงคืนวันที่ ๑๕ คนละวันกับวันที่โจทก์ฟ้อง ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาต่างกับฟ้องก็ต้องยกฟ้องตาม ป.วิ.อาญา ม.๑๙๒ วรรค ๒ และคำพิพากษาฎีกาที่ ๕๘๖/๒๔๙๐ พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าจำเลยมีความผิดตาม ก.ม.อาญา ม.๒๕๖ ใ้ห้จำคุก ๓ ปี ของกลางริบ ให้ยกอุทธรณ์จำเลย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่าจำเลยทำร้ายโจทก์บาดเจ็บสาหัสส่วนปัญหาข้อ ก.ม.เรื่องข้อเท็จจริงต่างกับฟ้องนั้นเห็นว่าโจทก์กล่าวในฟ้องว่าเหตุเกิดวันที่ ๑๔ ส.ค.๙๕ เวลากลางคืน แต่โจทก์ก็ระบุไว้แจ้งชัดว่าเวลากลางคืนตาม ก.ม. ซึ่งเป็นที่เข้าใจได้ว่าตั้งแต่พระอาทิตย์ตกถึงพระอาทิตย์ขึ้น เพราะฉนั้นเวลา ๒ น.ของวันที่ ๑๕ ติดต่อเป็นคืนเดียวกับคืนวันที่ ๑๔ จึงถือว่าเป็นการฟ้องผิดวันไม่ได้ตามคำพิพากษาฎีกาที่ ๔๔๓/๒๔๘๙ ระหว่างอัยการจังหวัดสมุทรปราการ โจทก์ นายกวาง แซ่ห่าน จำเลย ส่วนคำพิพากษาฎีกาที่ ๕๘๖/๒๔๙๐ หาขัดกันไม่ พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์.