คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2487

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ไนคดีที่โจทฟ้องว่า จำเลยรับของโจร จำเลยไห้การว่าของกลางที่จับได้ จำเลยซื้อไว้โดยสุจริตดังนี้ ไม่ไช่ไห้การต่อสู้กับสิทธิ
เมื่อข้อเท็ดจิงฟังได้ว่าของกลางเปนของเจ้าทรัพย์แล้ว แม้โจทจะไม่นำของกลางมาสาล ก็ไม่ทำไห้ข้อเท็ดจิงเปลี่ยนแปลงลงโทสได้

ย่อยาว

โจทฟ้องว่า มีคนร้ายลักทรัพย์ของนายนิมชาไปต่อมาเจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยของกลาง จำเลยต่อสู้ว่าของกลางที่จับได้ จำเลยซื้อไว้จากผู้มีชื่อโดยสุจริต
ได้ความว่าผู้เสียหายส่งสินค้าเสื้อผ้า ๑ ห่อโดยทางรถไฟ จากสถานิสวิไปที่สถานีบางสพานน้อย รถไฟสินค้าจอดนอนที่สถานีชุมพร ๑ คืน รุ่งขึ้นออกเดินทางถึงสถานีบางสพานน้อย เมื่อถึงปลายทางปรากดว่า ของที่ส่งไปถูกแก้ห่อหายไปหลายหย่างเจ้าทรัพย์ไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำหรวดชุมพร ต่อมานายสิบตำหรวดโทถนอมเดินตรวจห้องที่ห่างสถานีชุมพรราว ๑๐๐ เส้น พบจำเลยซึ่งเปนคนงานนับไช้หยู่ที่สถานีชุมพร เดินหิ้วะสอบเสื่อกะจูด ๑ ไปมีกิริยาพิรุธ จึงจับจำเลยไปสถานีตำหรวดปรากตว่าสิ่งของไนกะสอบเจ้าทรัพย์และนายยานัดยืนยันว่าเปนของเจ้าทรัพย์ที่หาย
สาลชั้นต้นพิพากสาลงโทสจำเลยถานรับของโจร
สาลอุธรน์พิพากสายกฟ้อง โดยเห็นว่าจำเลยต่อสู้กัมสิทธิ โจทไม่นำของกลางอันเปนวัตถุพยานส่งเปนพยานตามที่อ้างไว้ เจ้าทรัพย์ละพยานโจทไม่มีโอกาสดูของกลางว่าจะเปนของเจ้าทรัพย์ที่หายหรือไม่ และจำเลยไม่มีโอกาสซักค้านพยานเดี่ยวกับของกลางนั้นทั้งสาลก็ไม่มีโอกาสตรวดดูของกลางเพื่อชังน้ำหนักพยาน การที่+อันเปนวัตถุพยานมาสาล ไม่ชอบด้วยประมวกดหมายวิธีพิจารนาความอาญามาตรา ๒๔๑
โจทดีกา สาลดีกาเห็นว่า ข้อเท็ดจิงได้ความชัดว่าของกลางรายนี้เปนของเจ้าทรัพย์ที่หายโดยถูกคนร้ายลักไประหว่างทาง และจับได้ที่จำเลย จำเลยมิได้ไห้การต่อสู้กัมสิทธิไนเรื่องของกลาง เปนแต่กล่าวว่า เพิ่งรับซื้อไว้โดยสุจริต และจำเลยก็มิได้อ้างของกลางนั้นเปนพยานทั้งทางพิจารนาไม่ปรากตว่าจำเลยต้องการดูของกลางเพื่อซักค้านพยานแต่พย่างได ฉะนั้นที่โจทมิได้ส่งของกลางตามที่โจทได้อ้างไว้ลำพังคดีนี้ไม่ทำไห้ข้อเท็ดจิงเปลี่ยนแปลง จึงพิพากสากลับคำพิพากสาสาลอุธรน์ ไห้บังคับคดีตามคำพิพากสาชั้นต้น

Share