แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ไนคดีที่โจทฟ้องว่า จำเลยรับของโจร  จำเลยไห้การว่าของกลางที่จับได้  จำเลยซื้อไว้โดยสุจริตดังนี้  ไม่ไช่ไห้การต่อสู้กับสิทธิ
เมื่อข้อเท็ดจิงฟังได้ว่าของกลางเปนของเจ้าทรัพย์แล้ว  แม้โจทจะไม่นำของกลางมาสาล  ก็ไม่ทำไห้ข้อเท็ดจิงเปลี่ยนแปลงลงโทสได้
ย่อยาว
โจทฟ้องว่า  มีคนร้ายลักทรัพย์ของนายนิมชาไปต่อมาเจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยของกลาง  จำเลยต่อสู้ว่าของกลางที่จับได้  จำเลยซื้อไว้จากผู้มีชื่อโดยสุจริต
ได้ความว่าผู้เสียหายส่งสินค้าเสื้อผ้า ๑ ห่อโดยทางรถไฟ  จากสถานิสวิไปที่สถานีบางสพานน้อย  รถไฟสินค้าจอดนอนที่สถานีชุมพร  ๑ คืน รุ่งขึ้นออกเดินทางถึงสถานีบางสพานน้อย  เมื่อถึงปลายทางปรากดว่า  ของที่ส่งไปถูกแก้ห่อหายไปหลายหย่างเจ้าทรัพย์ไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำหรวดชุมพร  ต่อมานายสิบตำหรวดโทถนอมเดินตรวจห้องที่ห่างสถานีชุมพรราว ๑๐๐ เส้น  พบจำเลยซึ่งเปนคนงานนับไช้หยู่ที่สถานีชุมพร  เดินหิ้วะสอบเสื่อกะจูด ๑ ไปมีกิริยาพิรุธ  จึงจับจำเลยไปสถานีตำหรวดปรากตว่าสิ่งของไนกะสอบเจ้าทรัพย์และนายยานัดยืนยันว่าเปนของเจ้าทรัพย์ที่หาย
สาลชั้นต้นพิพากสาลงโทสจำเลยถานรับของโจร
สาลอุธรน์พิพากสายกฟ้อง  โดยเห็นว่าจำเลยต่อสู้กัมสิทธิ  โจทไม่นำของกลางอันเปนวัตถุพยานส่งเปนพยานตามที่อ้างไว้  เจ้าทรัพย์ละพยานโจทไม่มีโอกาสดูของกลางว่าจะเปนของเจ้าทรัพย์ที่หายหรือไม่  และจำเลยไม่มีโอกาสซักค้านพยานเดี่ยวกับของกลางนั้นทั้งสาลก็ไม่มีโอกาสตรวดดูของกลางเพื่อชังน้ำหนักพยาน  การที่+อันเปนวัตถุพยานมาสาล  ไม่ชอบด้วยประมวกดหมายวิธีพิจารนาความอาญามาตรา ๒๔๑
โจทดีกา สาลดีกาเห็นว่า  ข้อเท็ดจิงได้ความชัดว่าของกลางรายนี้เปนของเจ้าทรัพย์ที่หายโดยถูกคนร้ายลักไประหว่างทาง  และจับได้ที่จำเลย  จำเลยมิได้ไห้การต่อสู้กัมสิทธิไนเรื่องของกลาง  เปนแต่กล่าวว่า  เพิ่งรับซื้อไว้โดยสุจริต  และจำเลยก็มิได้อ้างของกลางนั้นเปนพยานทั้งทางพิจารนาไม่ปรากตว่าจำเลยต้องการดูของกลางเพื่อซักค้านพยานแต่พย่างได  ฉะนั้นที่โจทมิได้ส่งของกลางตามที่โจทได้อ้างไว้ลำพังคดีนี้ไม่ทำไห้ข้อเท็ดจิงเปลี่ยนแปลง  จึงพิพากสากลับคำพิพากสาสาลอุธรน์ ไห้บังคับคดีตามคำพิพากสาชั้นต้น
