แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานรับผิดซึ่งเป็นของผู้ร้ายสวนเพ็ชร์ไม่ฟังว่าเป็นของผู้ใด จำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้องและให้คืนนิลกับเพ็ชร์ให้จำเลย โจทก์ฎีกาขอให้ลงดทษ เมื่อศาลฎีกาฟังว่าเพ็ชร์เป็นของผู้เสียหายซึ่งจำเป็นของร้ายก็สั่งให้คืนเพ็ชร์ให้ผู้เสียหายได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่ามัผู้ร้ายลักธรบัตร์และแหวนประดับเพ็ชร์เม็ดเล็ก เม็ดใหญ่ และนิลของนางอบไปจำเลยได้รับแหวน ๒ วงนั้น ไว้โดยรู้สึกว่าเป็นของร้ายได้มาจากการทำผิดกฎหมายขอให้ลงโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาญามาตรา ๓๒๑ ในเรื่องของกลางเห็นว่านิลเป็นของผู้เสียหาย จึงให้คืนแก่ผู้เสียหายไป ส่วนเพ็ชร์เม็ดเล็กและเม็ดใหญ่นั้นไม่ฟังว่าเป้นของผู้เสียหายหรือจำเลยเมื่อผู้ใดประสงค์จะแสดงว่าเป็นของตนก็ให้ฟ้องร้องขึ้นมาในทางแพ่งอีกคดีหนึ่ง
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์ปล่อยจำเลย และกล่าวว่า เพ็ชร์ของกลางนั้นศาลชั้นต้นไม่ได้ชี้ขาดว่าเป็นของผู้เสียหาย แต่ไม่คืนให้จำเลยนั้นไม่ชอบ จึงให้คืนของกลางให้แก่จำเลยไป
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาเชื่อว่าจำเลยปรับเพ็ชร์เม็ดใหญ่เม็ดเล็กและนิลไว้จากโจรโดยทราบว่าเป็นของร้ายจึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยตามศาลชั้นต้น เพ็ชร์เม็ดใหญ่ เม็ดเล็กกับนิลคือผู้เสียหาย แต่ทองที่ประกอบแหวน ๒ วง นั้นมิใช่ของผู้เสียหาย จึงให้คืนจำเลย