คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1862/2523

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ที่ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้คู่ความฟังแล้วสั่งบังคับภายใน 30 วัน มีความหมายว่าให้คู่ความปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาภายในกำหนดนั้น ถ้าไม่ปฏิบัติจะถูกบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 หากว่าเจ้าหนี้ ตามคำพิพากษาขอให้บังคับคดีเมื่อโจทก์และจำเลยต่างเป็นเจ้าหนี้และลูกหนี้ตามคำพิพากษาด้วยกันทั้งสองฝ่ายย่อมมีสิทธิขอบังคับคดีภายในสิบปีนับแต่วันมีคำพิพากษาไม่ใช่ว่าเมื่อพ้นกำหนดเวลาตามคำบังคับแล้วจะบังคับคดีไม่ได้
เรื่องการบังคับคดีเมื่อศาลมีคำสั่งไปครั้งหนึ่งแล้ว แม้โจทก์มิได้อุทธรณ์คำสั่งนั้นโจทก์ก็ยื่นคำร้องขอใหม่ได้โดย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144(5) บัญญัติเป็นข้อยกเว้นไว้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นสั่งว่า เนื่องจากโจทก์ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับและศาลได้สั่งยกคำร้องทำนองเดียวกันนี้ของโจทก์มาครั้งหนึ่งแล้ว จึงยกคำร้องให้ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลฎีกา โดยให้เรียกจำเลยมารับชำระเงินค่าที่ดิน 32,000 บาทจากโจทก์ และให้จำเลยทำการโอนที่ดินให้โจทก์ต่อไป จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “จำเลยฎีกาว่า

1. โจทก์ไม่ชำระเงินแก่จำเลยภายใน 30 วัน ตามคำบังคับจึงหมดสิทธิบังคับจำเลยโอนที่พิพาทให้โจทก์

2. ศาลมีคำสั่งยกคำร้องของโจทก์ไปครั้งหนึ่งแล้ว โจทก์ยื่นคำร้องใหม่ในเรื่องเดียวกันนั้น เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ

พิเคราะห์แล้ว ตามฎีกาข้อ 1 ศาลฎีกาเห็นว่า การที่โจทก์ทั้งสองขอชำระเงินแก่จำเลยเมื่อพ้น 30 วันตามคำบังคับแล้ว จะถือว่าหมดสิทธิบังคับจำเลยโอนที่พิพาทให้โจทก์หาได้ไม่ เพราะศาลฎีกามิได้พิพากษาเช่นนั้น ที่ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้คู่ความฟังแล้วสั่งบังคับภายใน 30 วัน มีความหมายว่าให้คู่ความปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาภายในกำหนดนั้น ถ้าไม่ปฏิบัติจะถูกบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 หากว่าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาขอให้บังคับคดี สำหรับคดีนี้โจทก์และจำเลยต่างเป็นเจ้าหนี้และลูกหนี้ตามคำพิพากษาด้วยกัน ทั้งสองฝ่ายย่อมมีสิทธิขอบังคับคดีภายในสิบปีนับแต่วันมีคำพิพากษา ไม่ใช่ว่าเมื่อพ้นกำหนดเวลาตามคำบังคับแล้วจะบังคับคดีไม่ได้ดังที่จำเลยฎีกามา เรื่องทำนองนี้ศาลฎีกาเคยพิพากษาไว้เป็นแบบอย่างแล้ว ตามคำพิพากษาฎีกาที่ 748/2509 คดีระหว่างนางผาด สีสุกกับพวก โจทก์ นายกวี เหวียนระวี จำเลย

ฎีกาข้อ 2 เรื่องการบังคับคดี เมื่อศาลมีคำสั่งไปครั้งหนึ่งแล้วแม้โจทก์มิได้อุทธรณ์คำสั่งนั้น โจทก์ก็ยื่นคำร้องขอใหม่ได้โดยมาตรา 144 (5) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งบัญญัติเป็นข้อยกเว้นไว้ศาลฎีกาเคยพิพากษาไว้เป็นแบบอย่างแล้วเช่นเดียวกัน ตามคำพิพากษาฎีกาที่ 1280/2510 คดีระหว่างพระสิทธิสาร โจทก์ นายปักซ้ง แซ่ปิงจำเลย”

พิพากษายืน

Share